รณรงค์ตรวจเลือดป้องกันเอชไอวีฟรีทั่วประเทศ
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมคณะทำงานส่งเสริมการเข้าถึงบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งประกอบไปด้วยคนทำงานเรื่องเอดส์จากภาครัฐและเอกชน ได้กำหนดให้วันที่ 1 ก.ค.ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ (vct day) เพื่อรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการรู้ผลการติดเชื้อเอชไอวีของตนเอง
เพราะการรู้ผลเลือดจะช่วยทำให้เกิดผลดีต่อการดูแลสุขภาพในระยะยาว เนื่องจากหากผลออกมาเป็นลบซึ่งหมายถึงไม่ติดเชื้อเอชไอวีก็จะได้หาทางเลือกในการป้องกันที่เหมาะกับตัวเอง ดูแลผลเลือดตัวเองให้เป็นลบตลอดไป แต่หากผลเป็นบวกซึ่งหมายถึงติดเชื้อเอชไอวีก็จะได้ประเมินภาวะสุขภาพและเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอให้เจ็บป่วย ทั้งนี้ ตลอดเดือนกรกฎาคมจะมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ผ่านสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์โฆษณา สปอตวิทยุ บิลบอร์ด และคลิปรณรงค์ทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสโลแกนว่า “เอชไอวี…ตรวจเพื่อก้าวต่อ” เพื่อชี้ชวนให้เห็นว่าการตรวจเอชไอวี การรู้ผลเลือดจะช่วยให้ชีวิตเราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างปกติ ไม่สะดุดล้ม เพราะความเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากเอชไอวี
น.พ.สรกิจ ภาคีชีพ ผู้จัดการอาวุโสกองทุนเพื่อบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ป่วยวัณโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สปสช.ได้ตั้งงบประมาณสำหรับประชาชนที่ต้องการขอรับบริการปรึกษา โดยในปี 2555 นี้ ตั้งไว้ที่ประมาณ 400,000 ราย แต่ขณะนี้มีผู้มารับบริการเพียง 200,000 กว่าราย คาดว่าการรณรงค์เนื่องในวันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มทหารเกณฑ์และหญิงตั้งครรภ์ที่ยังมีอัตราการติดเชื้อค่อนข้างสูง ทั้งนี้ บริการดังกล่าวไม่เสียค่าใช้แต่อย่างใด เนื่องจาก สปสช. ให้สิทธิประโยชน์เรื่องการตรวจเลือดเอชไอวีปีละ 2 ครั้ง กับประชาชนไทยทุกคนและทุกสิทธิเพียงแสดงหมายเลขประจำตัวประชาชน ก็ขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง และหากตรวจพบการติดเชื้อก็สามารถรับบริการด้านเอชไอวี/เอดส์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจเลือดของคนไข้ทุกรายจะถูกเก็บเป็นความลับโดยการเข้ารหัสหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และใช้รหัส nap number แทน เพื่อให้ผู้รับบริการสบายใจเรื่องการรักษาความลับรวมถึงจะได้ช่วยติดตามหากผู้รับบริการหายไปจากระบบ หากมีปัญหาสอบถามสายด่วนปรึกษาเอดส์ได้ที่หมายเลข 1663
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง