ยอดเด็กไทยขาดสารอาหารเพิ่ม นักวิชาการแนะทุกฝ่ายใส่ใจการกินเด็ก

การบริโภคอาหารไม่สมดุลทำให้ขาดวิตามินและเกลือแร่ แต่ได้รับไขมันและคาร์โบไฮเดรตเกิน เป็นเหตุให้เด็กไทยในเมืองมีความเสี่ยงสูงต่อการด้อยพัฒนาการทางกายและสมอง

ศ.เกียรติคุณ ดร.ภญ.มาลิน จุลศิริ  อาจารย์พิเศษคณะเภสัชกรรมศาสตร์ ม.มหิดล เผยว่า ปัญหาภาวะโภชนาการในเด็กวัยซนกำลังน่าเป็นห่วง เพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบทำให้หลายครอบครัวต้องซื้ออาหารจานด่วน ซึ่งส่วนใหญ่ขาดความสมดุลทางโภชนาการให้เด็กบริโภคอยู่ประจำ อีกทั้งเด็กวัยก่อนเรียนอายุ 4-5 ขวบ เริ่มบริโภคขนมและดื่มน้ำอัดลม และติดเป็นนิสัยช่วงอายุ 6 ขวบ เมื่อโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่ยิ่งมีความยากลำบากในการดูแลเด็กเหล่านี้ ทำให้บ่อยครั้งเด็กเกิดปัญหาขาดสารอาหารที่จำเป็น ขณะเดียวกันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาโรคอ้วน อุบัติการณ์โรคอ้วนในเด็กไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าจำนวนเด็กก่อนวัยเรียนอ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 และเด็กวัยเรียนอายุระหว่าง 6-13  ปี อ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 ภายในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังพบว่าเด็กไทยมีเชาวน์ปัญญาโดยเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยมาตรฐานที่ระดับ 90 มีมากถึง 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25
 
ปัญหาภาวะโภชนาการในเด็กแก้ไขไม่ยาก ศ.เกียรติคุณ ดร.ภญ.มาลิน  แนะนำว่า ให้เด็กบริโภคอาหารที่เหมาะสมทุกวันโดยเฉพาะมื้อเช้า ให้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าในปริมาณที่เพียงพอ
 
ถ้าไม่แน่ใจว่าเด็กจะบริโภคอาหารได้อย่างสมดุลทั้งในด้านคุณค่าสารอาหารและปริมาณสารอาหาร การให้เด็กบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มเติมเป็นวิธีการหนึ่ง ที่จะช่วยให้เด็กมีโอกาสได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาการ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น วิตามินบี ชนิดต่าง ๆ ธาตุเหล็ก ฯลฯ รวมทั้งมีกรดอะมิโนที่จำเป็น เช่น ไลซีน เพื่อนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการสร้างโปรตีน นอกจากนี้สารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลหวานและไขมัน เช่น โอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งถูกจัดเป็นใยอาหารชนิดละลายยังมีประโยชน์ช่วยในการขับถ่าย
 
“รสชาติหวานอร่อยและกลิ่นน่ากินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กชอบไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจึงมักมีรสหวานและกลิ่นหอม ส่วนผู้ปกครองต้องดูว่าความหวานในผลิตภัณฑ์นั้นมาจากน้ำตาลหรือไม่ ถ้าใช่ควรพิจารณาให้ดีเพราะการบริโภคบ่อย ๆ อาจเกิดปัญหาได้ เช่น เกิดเป็นกรดในน้ำลายและก่อปัญหาฟันผุในภายหลัง ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ โอลิโกแซคคาไรด์สามารถให้ความหวาน แต่ไม่เกิดปัญหาแบบน้ำตาล สารอาหารชนิดนี้มีคุณสมบัติน่าสนใจคือ การเป็นพรีไบโอติกซึ่งจะไม่ถูกย่อยและดูดซึมในลำไส้เล็ก จึงไม่ก่อปัญหาการถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม แต่จะลงไปที่ลำไส้ใหญ่ไปเป็นอาหารให้จุลินทรีย์ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ปริมาณจุลินทรีย์กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งช่วยในการขับถ่าย และเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย” 
 
ศ.เกียรติคุณ ดร.ภญ.มาลิน กล่าวปิดท้ายว่า ถ้าไม่เร่งปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกต้องให้เด็กในวันนี้ ประเทศไทยอาจต้องรับมือกับภาวะประชากรที่ขาดสุขภาพดีในวันหน้า และทำให้ต้องสูญเสียทั้งคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชาติในการดูแลบุคคลเหล่านี้ เหตุนี้คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งสังคมที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันดูแลเด็กในวันนี้โดยเฉพาะด้านอาหารการกินให้ดีที่สุด
 
 
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
 
Shares:
QR Code :
QR Code