ม.สงขลาฯใช้ทฤษฎี’กัลยาณมิตร’

ใช้ใจสื่อสารกับผู้ป่วยระยะสุดท้าย

 

          ผศ.นพ.อานนท์ วิทยานนท์ จิตแพทย์คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)  กล่าวภายหลังการเสวนา”หยั่งรากหัวใจมนุษย์ ผลิใบหัวใจแพทย์”  จัดโดยสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.)  ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ว่า  มอ.ได้พัฒนาหลักสูตรฝึกทักษะการสื่อสารสำหรับนักศึกษาแพทย์ หน่วยชีวันตาภิบาล ปี 1- 2 ทั้งภาคทฤษฎีและปี 3-4 ภาคปฏิบัติซึ่งหลักสูตรนี้ได้พัฒนามาตั้งแต่ปี 2551 จนปัจจุบันประสบความสำเร็จ  ซึ่งนักศึกษาแพทย์ปี3- 4 ที่ผ่านหลักสูตรภาคทฤษฎี แล้ว ต้องลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา เพื่อทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร เยี่ยมผู้ป่วยระยะสุดท้าย ฝึกให้นักศึกษาแพทย์มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยซักถามกับคนไข้ด้วยหัวใจ  ในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง  คอยดูแลแบบองค์รวม คำนึงถึงการใช้ชีวิตของผู้ป่วยด้านต่างๆ ทั้ง กาย จิตใจ ความเชื่อทางศาสนาสังคมและครอบครัว กฎหมาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้ผู้ป่วยหลุดพ้นจากความกังวล ความกลัว  ความทรงจำที่ไม่ดีในอดีต และไม่เอาความเชื่อเข้ามาชักจูงผู้ป่วยให้คล้อยตาม หลักสูตรฝึกทักษะนี้นจิตใจของผู้ป้วยได้รับการยอมรับจากผู้ป่วยและแพทย์ว่า  กว่า 90% สามารถสร้างความสุขให้กับแพทย์ที่ปฏิบัติงาน  ส่งผลดีต่อการรักษาผู้ป่วย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  ผู้ป่วยกล้าพูดคุย กล้าแสดงออกมากขึ้น และที่สำคัญไม่พบปัญหาการฟ้องร้องแพทย์เกิดขึ้น ซึ่งต่างจากอดีตที่ผู้ป่วยไม่เคยได้รับความใส่ใจต่อคนรอบข้างทำให้มีผลกระทบทางด้านจิตใจ  ซึ่งการสอนหลักสูตรกับนักศึกษาแพทย์ สามารถมองภาพรวมของผู้ป่วยทั้งกายและใจ ไม่ยึดติดกับความคิดของตนเองคำนึงถึงความต้องการของผู้ป่วยเป็นหลัก โดยแพทย์ใช้ใจมองผู้ป่วยมากขึ้นทำให้เกิดมีความเข้าใจการรักษาไปในทิศทางเดียวกันและลดปัญหาการขัดแย้ง

ม.สงขลาฯใช้ทฤษฎี’กัลยาณมิตร’

 

          นางงามจิตต์  จันทรสาธิต  ผู้อำนวยการสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สสส. กล่าวว่า  ที่ผ่านมา สสส.ได้สนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆทั้งระดับมหาวิทยาลัย  โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ชุมชนเพื่อพัฒนาทักษะการให้บริการดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ คาดว่าภายใน 2 ปี จะเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังมีเครือข่ายที่ให้ความสนใจเข้ามาเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า แพทย์หรือผู้ให้บริการเป็นผู้มีจิตใจที่ดีเพียงแต่มีภาระงานมากขึ้น จนอาจทำให้ขาดการสื่อสารทำความเข้าใจทั้งกับผู้ป่วยและญาติ เมื่อมีโครงการนี้ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการก็มีความสุขมากขึ้น ทั้งนี้ สสส.มุ่งเติมเต็มสุขภาพครบทั้ง 4 มิติโดยเฉพาะด้านจิตใจ และสังคม เพื่อให้เป็นสังคมที่เกื้อกูล เอื้ออาทร เข้าใจกัน นำพาให้สังคมไทยน่าอยู่

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย

 

update 16-03-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : วีระ วานิชเจริญธรรม

Shares:
QR Code :
QR Code