ภาคกลางร่วมสร้างความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 2
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)
ภาพประกอบจากสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)
สคอ. ขับเคลื่อนสื่อภาคกลางร่วมสร้างความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 2
เมื่อเร็วๆ ณ โรงแรมวาสิฏฐีซิตี้โฮเทล อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ในการประชุมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่ายสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 2 จัดโดย สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกับสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.) สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างความร่วมมือสื่อสารประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อนนโยบายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนให้มีความต่อเนื่อง และร่วมแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม
นายมนัส อ่ำทอง ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานฯ นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. และ นายแพทย์วิวัฒน์ โรจนพิทยากร กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. มอบแนวทางการดำเนินงานสื่อสารสารประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยทางถนนแก่สื่อมวลชนระดับภูมิภาคและเครือข่ายจาก 26 จังหวัดภาคกลางทั้งสิ้นกว่า 60 คน
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ(สคอ.) กล่าวว่า สาเหตุหลักการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยมาจากเมาและขับเร็ว ซึ่งจากข้อมูลรายการสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนประเทศไทย ปี 2557 (แผนงาน สอจร.)ระบุว่า มีการจับกุม ปรับ และดำเนินคดี การ“ขับรถเร็ว” จำนวน 344,662 ราย คิดเป็น 670.77 รายต่อแสนประชากร 10 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ชุมพร สมุทรปราการ ลำปาง ขอนแก่น ชลบุรี ชัยภูมิ สระบุรี ลำพูน ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นอันดับที่ 13
ทั้งนี้ล่าสุดได้มีมติของคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่1/2559 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 เรื่องความเร็ว เป็น 1 ใน 5 ประเด็นของข้อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย คือ การลดความเร็วในเขตเมืองให้เหมาะสม สอดคล้องกับถนนแต่ละประเภท และ การเพิ่มโทษให้สูงขึ้นเป็น 10,000 บาท (ทั้ง พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.ทางหลวง) เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วลดลงและทำให้อุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วลดลง จังหวัดสุพรรณบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมของถนนมากที่สุดในประเทศ แต่ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องการขับรถเร็วที่สร้างความสูญเสียมากสุด
ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ สคอ.ได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมเรียนรู้พื้นที่เรียนนำร่องการจัดการความเร็วบริเวณหน้าโรงเรียนตามแบบวิศวกรรมจราจร จนทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านมีการใช้ความเร็วลดลงและส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนร่วมกันนำเสนอข้อมูล สถานการณ์ ปัญหา สาเหตุ ผลกระทบและต้นแบบการแก้ไขปัญหาความเร็วที่ได้ผลนำเผยแพร่สู่สาธารณะอย่างเข้มข้น เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นนโยบาย มาตรการที่จะควบคุมและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนต่อไป