ภัยจากโฟมใส่อาหารก่อมะเร็ง

          สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เสนอรัฐบาลเร่งรณรงค์ชี้ภัยกล่องโฟมใส่อาหารปรุงสำเร็จที่มีความร้อนสูง ก่อให้เกิดปนเปื้อนสารพิษที่ทำให้เป็นมะเร็ง หรือได้ลูกเป็นดาวน์ซินโดรม กรมอนามัยกำหนด 4 แนวทางกระตุ้นผู้บริโภคลด ละ เลิกใช้


ภัยจากโฟมใส่อาหารก่อมะเร็ง   thaihealth


          นายประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือแจ้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การจัดการอันตรายจากโฟมที่ใช้สำหรับบรรจุภาชนะอาหาร" เนื่องจากตระหนักว่า ปัจจุบันมีการใช้โฟมบรรจุอาหารปรุงสำเร็จซึ่งส่วนใหญ่มีความร้อนเกิน 70 องศา เซลเซียส และมีไขมัน ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนสารเคมี เช่น สารสไตรีน เบนซิน พทาเลท กับอาหารที่ใช้โฟมซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก สมองเสื่อม เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ทำให้เป็นหมัน หญิงมีครรภ์อาจทำให้เกิดลูกที่มีอาการดาวน์ซินโดรม เป็นต้น


          นอกจากนี้ขยะจากโฟมบรรจุอาหารเป็นขยะที่ย่อยสลายยาก ใช้เวลาถึง 450 ปีกว่าจะสลายตัวได้หมด ซึ่งหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกาในบางรัฐ เช่น นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ได้ยกเลิกการใช้กล่องโฟมเป็นภาชนะบรรจุอาหาร


          ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบให้กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำโครงการรณรงค์ ลด ละ เลิกการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย โดยได้กำหนดแนวทางรณรงค์ 4 ข้อ ได้แก่ 1.สำรวจสถานการณ์การใช้โฟมบรรจุอาหาร 2.การให้ความรู้ผู้ประกอบการค้าอาหาร 3.จัด กิจกรรมรณรงค์ลด ละ เลิกการใช้โฟมบรรจุอาหาร และการเลือกใช้ภาชนะทดแทนโฟมที่ปลอดภัยย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น ใบตอง ใบบัว กระดาษชานอ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด พลาสติกที่ย่อยสลายได้ ซึ่งปัจจุบันราคาจำหน่ายแพงกว่าโฟมบรรจุอาหารไม่มาก 4.กำหนดวันดีเดย์เลิกการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย เช่น วันที่ 5 มิถุนายน (วันสิ่งแวดล้อมโลก) หรือกำหนดวันอื่นๆ ที่เหมาะสม โดยให้มีการมอบป้ายรณรงค์ "ร้านที่ปลอดภัยไม่ใช้โฟมบรรจุอาหาร" สำหรับร้านที่เลิกการใช้โฟมไม่น้อยกว่า 4 เดือน นับจนถึงวันรับมอบป้าย


          ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในถ้วยโฟมมีสารสไตรีน ซึ่งมีผลต่อระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับ ไต เมื่อสูดดมหรือรับประทานอาจมีอันตรายแก่ชีวิต สารดังกล่าวเมื่อถูกความร้อนและน้ำมันจะละลาย ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายผู้บริโภค


          ขณะที่นางสาวทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผอ.สำนักอาหาร กล่าวว่า โฟมเป็นภาชนะที่ปลอดภัยสำหรับใส่อาหารเย็น มีหลากหลายรูป แบบ แต่ไม่ทนต่อน้ำมันและความร้อนที่อุณหภูมิสูง 70 องศา แต่พ่อค้าแม่ค้านิยมใช้โฟมเพราะสะดวกและมีราคาถูก กรมอนามัยร่วมกับสำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงวางมาตรการกำหนดรูปแบบฉลากติดข้างกล่องโฟม เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค


          ชมรมคนรักสุขภาพให้ข้อมูลว่า อาหารที่บรรจุกล่องโฟมเป็นแหล่งสะสมสารสไตรีน ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่าย หงุดหงิดง่าย มีผลทำให้ผู้หญิงประจำเดือนมาไม่ปกติ และเป็นสารก่อมะเร็งอีก 3 ชนิด ส่วนผู้ชายรับประทานเข้าไปมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงต่อการเป็นมะเร็งตับแม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ


          ปัจจัยที่ทำให้เราได้รับสารสไตรีนในกล่องโฟม ได้แก่ 1. การที่อุณหภูมิร้อนขึ้นหรือเย็น ลง ทำให้สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง 2. การปรุง อาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ 3. การซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารก็จะดูดสารสไตรีนได้มาก 4. การนำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก 5. ถ้าอาหารสัมผัสพื้น ที่ผิวกล่องโฟมมากๆ รวมถึงการตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร จะทำให้ได้รับสารก่อมะเร็ง 2 เด้ง ทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


 

Shares:
QR Code :
QR Code