พิชิตหุ่นเฟิร์ม-สร้างสุขตำรวจรัฐสภาไทย

 

พิชิตหุ่นเฟิร์ม-สร้างสุขตำรวจรัฐสภาไทย

การเร่งรีบจากการทำงาน ไม่มีเวลาพักผ่อน หรือแม้แต่เวลาจะออกกำลังกายที่เพียงพอ เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพ ร่างกายของคนไทยในยุคนี้เลยก็ว่าได้ แต่หากเรื่องเหล่านี้กำลังคุกคามบุคคลที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเราอย่าง “ตำรวจ” หรือโดยเฉพาะตำรวจที่ต้องคอยดูแลบุคคลสำคัญระดับชาติ อย่าง “ตำรวจรัฐสภา”   แล้วล่ะก็!!… อาจส่งผลต่อการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือกันของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเครือข่ายคนไทยไร้พุง จัดกิจกรรม “โครงการตำรวจรัฐสภาไทย สุขภาพจิตสดใส สุขภาพกายแข็งแรง”ขึ้น เพื่อสร้างเสริมสมรรถภาพร่างกายให้ตำรวจรัฐสภาได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น.พ.ฆนัท ครุธกูล เลขานุการคณะกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง เล่าว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้น เราต้องการให้เกิดแบบอย่างที่ดีแก่หน่วยงานอื่นๆ และประชาชนทั่วไป แต่การจะเป็นต้นแบบให้ได้เห็นผลนั้นจำเป็นต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เราจึงมองไปถึงตำรวจที่คอยรักษาความปลอดภัยและใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า จึงเกิดเป็นโครงการฯ นี้ขึ้น อีกทั้งคนส่วนใหญ่มักคิดว่าตำรวจต้องสุขภาพดี แข็งแรง แต่จากการที่เครือข่ายคนไทยไร้พุงได้เข้าไปสำรวจเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยการทดสอบสมรรถภาพร่างกายตำรวจรัฐสภา พบค่าดัชนีมวลกายส่วนใหญ่มีรูปร่างสมส่วน ร้อยละ 61.1 มีภาวะน้ำหนักเกิน ร้อยละ 30  โรคอ้วนร้อยละ 4.4  รูปร่างผอมบาง ร้อยละ 4.4 ขณะที่ร้อยละ 41.1 ปริมาณไขมันในร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 55.6 มีปริมาณไขมันในร่างกายสูงและสูงมาก สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรค โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ที่เป็นโรคไม่ติดต่อและเกิดได้บ่อยกับทุกคน เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงพบว่าการดูแลสุขภาพมันต้องอยู่ที่การเอาใจใส่ของตนเองมากกว่าลักษณะของอาชีพ

“จากผลสำรวจจะเห็นว่าการที่ตำรวจรัฐสภามีปริมาณไขมันหรือดัชนีมวลกายที่ไม่สมดุลกัน ทั้งที่มีภาระหน้าที่ต้องมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้น อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว การนอนดึก พักผ่อนไม่พอรวมถึงการบริโภคอาหาร เพราะหลายคนเชื่อว่าออกกำลังกายแล้วสามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้ ซึ่งถือเป็นความเชื่อที่ผิด และเราจะพยายามปรับทัศนคติตรงนั้นให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเขาเอง โดยหลังจากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะมีการวัดผลสำรวจอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อนำไปเป็นต้นแบบและขยายต่อเนื่องไปยังสายอาชีพลักษณะเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นที่เครือข่ายได้ทำโครงการมหานครแห่งสุขภาพร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยมีการประเมินให้คำแนะนำ ให้ความรู้ที่ถูกต้องกลับกลุ่มบุคคลในลักษณะคล้ายกันนี้ เช่น ในโรงเรียน สถานประกอบการหรือหน่วยงานราชการอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีกันทั้งประเทศ ” เลขานุการฯ เครือข่ายคนไทยไร้พุงกล่าว

สำหรับกิจกรรมของโครงการประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1.การวัดสมรรถภาพร่างกายและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั้งก่อนและหลังการเข้าร่วมโครงการ  2.ฝึกอบรมตำรวจรัฐสภาไทย โดยได้แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2555 และ 3.กิจกรรมการออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพ สัปดาห์ละ 1 วัน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป รวมถึงควบคุมดูแลเรื่องอาหารและจิตใจ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดประชุมสภา ภาระหน้าที่ของตำรวจก็จะลดลง จึงสามารถมีเวลาทำกิจกรรมได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 90 นาย

เลขานุการฯ เครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวทิ้งท้ายว่า“ทุกอาชีพมีความสำคัญ  ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.หรือ ส.ว. เพราะโรคร้ายสามารถเกิดได้กับทุกอาชีพ ไม่ใช่อาชีพใดอาชีพหนึ่ง ถ้าคุณยังใช้ชีวิตอยู่ในความเสี่ยงเราก็ไม่ได้แตกต่างจากบุคคลอื่น เราจึงต้องดูแลสุขภาพตนเองให้ดีที่สุด เพื่อจะเป็นกำลังหลักของครอบครัวต่อไป”

โดย นายนุกูล สัญฐิติเสรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรบอกว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เห็นความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพบุคลากร ให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ อารมณ์และสังคมที่ดี เนื่องจากภายใต้การดูแลจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับภาระหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณรัฐสภา ดูแลสถานที่ ป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎในบริเวณรัฐสภาที่ส่งผลต่อความปลอดภัยทุกรูปแบบ ทำหน้าที่ประสานงานด้านอาคาร ทั้งบุคคลในและนอกองค์กร และทำหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ 

“ภาระหน้าที่ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างมากจึงจำเป็นต้องมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ตลอดเวลา อีกทั้งการทำงานรักษาความปลอดภัยในรัฐสภานั้นมีการพักผ่อนที่ไม่แน่นอน บางครั้งอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายได้ จึงส่งผลต่อการทำงานและเกิดภาวะเครียด “โครงการตำรวจรัฐสภาไทย สุขภาพจิตสดใส สุขภาพกายแข็งแรง” ที่จัดทำขึ้นนั้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาสนใจการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น”

การจัดโครงการนี้ก็เพื่อให้ตำรวจรัฐสภามีความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในเรื่องของการเสริมสร้างพลานามัยและโภชนาการ การออกกำลังกายที่ถูกต้อง รวมถึงเทคนิคการทำงานอย่างมีความสุข การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตเพื่อส่งเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายผลไปสู่บุคลากรกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป

ด้าน น.ส.นวลอนันต์ ตันติเกตุ รองผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ สสส. ที่ต้องการการให้คนไทยมีกิจรรมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ และลดปัญหาทางด้านสุขภาพจิต และผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ถึงแม้ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะตระหนักและให้ความสำคัญกับกิจกรรมออกกำลังกาย  แต่ด้วยเวลาและสถานที่ จึงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนไทยห่างไกลการออกกำลังกาย  โดยเฉพาะตำรวจรัฐสภาที่มีภารกิจสำคัญในการดูแลปกป้อง ดูแลคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริหารระดับประเทศ โดยตนเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการนำไปสู่ความร่วมมือในการสร้างเสริมสุขภาพ เจ้าหน้าที่  ผู้บริการ และบุคลากรในองค์กรนิติบัญญัติต่อไป

การมีสุขภาพดีใครๆ ก็อยากได้ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องดูแลเอาใจใส่ตัวเราเองอย่างครบถ้วนและถูกต้อง เพราะสุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

 

 

เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Teamcontent www.thaihealth.or.th

Shares:
QR Code :
QR Code