ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

          องค์การอนามัยโลก คาดยอดตายบนท้องถนนไทยดีขึ้น ไต่อันดับลงเหลือ9 ของโลก เผยยังไม่วางใจเหตุยอดยังสูงมาก เฉลี่ยตายวันละ60คน โดยฉพาะวัยหนุ่มสาว พร้อมลุยโครงการ'ต่ำกว่า 15 ปี ไม่ขี่มอเตอร์ไซค์'

           นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์โลกด้านความปลอดภัยทางถนน ขององค์การอนามัยโลกครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าข้อมูลในปี 2559 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนประมาณ 1.35 ล้านคนต่อปี เฉลี่ย 3,700 คนต่อวัน และเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการเสียชีวิตเด้กและเยาวชนทั่วโลก โดยครึ่งหนึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน สำหรับประเทศไทยนั้นทางองค์การอนามัยโลกได้ประมาณการอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 32.8 ต่อประชากรแสนคน หรือ 22,491 คน เฉลี่ยวันละ 60 คน อยู่อันดับที่ 9 ของประเทศสมาชิกทั้งหมด ดีขึ้นจากเดิมที่เคยอยู่อันดับ 2 ซึ่งการประมาณการนี้ใกล้เคียงกับรายงานข้อมูลของกรมควบคุมโรคร่วมกับภาคีต่างๆ และฐานข้อมูลจากมรณบัตรในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย 21,745 คน คิดเป็น 31.58 ต่อประชากรแสนคน

          นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ถึงแม้ตัวเลขจะลดลง แต่ก็ถือว่ายังสูง และถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อเทียบประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 15- 29 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ในส่วนของกรมควบคุมโรค ขณะนี้ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลักดันให้มีการตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุ ในรายที่เป่าได้ก็ให้ตำรวจดำเนินการ ส่วนรายที่เป้าไม่ได้ก็ให้ตำรวจส่งตัวไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล เป็นต้น สำหรับการปกป้องกลุ่มเด็กและเยาวชนนั้นในปี 2562 มีการขับเคลื่อนโครงการอายุต่ำกว่า 15 ปีไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์ และโครงการหน้าโรงพยาบาลปลอดภัย เพราะถือเป็นอีก 1 จุดเสี่ยง

          อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ในวันขึ้นปีใหม่ 2562 ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง มีความตระหนัก รู้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจร ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อนร่วมทาง หากพบเห็นอุบัติเหตุให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.