พบสิงห์อมควันป่วยแต่ยังไม่ยอมเลิกยาสูบ

ละเลยโรคร้ายเตือน!ถึงตัดมือ-เท้า/เสียชีวิต


 

       สสส.-ศจย. วิจัย พบสิงห์อมควัน ป่วยแต่ไม่ยอมเลิกบุหรี่ ทั้งที่รู้ว่าอันตราย ชี้ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้น ยังสูบบุหรี่  1 ใน 4  ส่วนโรคเบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ ยังละเลย ไม่รู้อันตราย ถึงขั้นตัดมือ ตัดเท้า หัวใจวาย

 

พบสิงห์อมควันป่วยแต่ยังไม่ยอมเลิกยาสูบ

       รศ.นพ.วิชัย เอกพลากร อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และหัวหน้าโครงการรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย  กล่าวว่า จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ครั้งที่ 4 ในปี 2551-2552  ด้วยวิธีการตรวจร่างกาย ที่สนับสนุนโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีอีกหลายหน่วยงาน ได้สำรวจอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง ทั้งโรคเรื้อรังที่เกิดจากการสูบบุหรี่ และโรคที่ไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อโรค คือ โรคปอดอุดกั้นหรือปอดอักเสบเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้แพทย์จะแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด แต่ยังพบว่าผู้ป่วยไม่สามารถเลิกได้ หรือ ทราบว่าต้องเลิกแต่ละเลยและยังมีการสูบอย่างต่อเนื่อง      

 

       “น่าแปลกใจว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่โดยตรงและเมื่อสูบจะมีผลให้อาการของโรคแย่ลง คือ โรคปอดอุดกั้น ยังมีผู้ป่วยสูบบุหรี่อยู่ถึง 25.3% หรือ 1 ใน 4 ซึ่งตามปกติแพทย์จะแนะนำให้ผู้ ป่วยเลิกสูบบุหรี่ทันที เพราะจะทำให้อาการแย่ลง และมีความเสี่ยงอย่างมาก ฉะนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคดังกล่าวมีความจำเป็นต้องหาทางเลิกบุหรี่โดยทันที รศ.ดร.วิชัย กล่าว

 

       รศ.ดร.วิชัย กล่าวว่า โรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือด เป็นกลุ่มที่ต้องเลิกบุหรี่เช่นกัน แต่ผู้ป่วยมีความตระหนักน้อย เพราะเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับโรค จากการสำรวจพบว่า โรคเบาหวาน ยังมีผู้ป่วยสูบบุหรี่ 17.9% ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง  มีผู้ป่วยที่ยังสูบบุหรี่ 16.6% โรคหลอด เลือดสมอง มีผู้ป่วยที่ยังสูบบุหรี่ 14.1% และโรค หลอดเลือดหัวใจ มีผู้ป่วยยังสูบบุหรี่ 9.9% ซึ่ง โรคเหล่านี้ไม่ควรสูบบุหรี่ โดยเฉพาะเบาหวาน เพราะ การสูบบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี จนเลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างไม่เพียงพอ ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนสูงอยู่แล้ว การสูบบุหรี่จึงทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนเร็วขึ้นโดยเฉพาะภาวะขาดเลือดที่เป็นสาเหตุให้ต้องตัดมือ ตัดเท้า ซึ่งส่วนมากผู้ป่วยไม่ทราบว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้        

 

       ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ยังสูบบุหรี่ถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะ บุหรี่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการทรุด และเกิดโรคแทรกซ้อน จึงขอเชิญชวนแพทย์ พยาบาล ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดสำหรับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว และช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ ด้วยการให้คำปรึกษาถึงทางเลือกในการเลิกบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นการหักดิบ หรือในบางรายอาจจะจำเป็นต้องใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่ หรือใช้สารทดแทนนิโคตินในระดับต่ำ เพื่อช่วยลดความอยากบุหรี่ นอกจากนี้ผู้ป่วยควรตระหนักถึงความสำคัญในการลด ละ เลิก บุหรี่ เมื่อทราบว่าตนเองป่วย

 

 

ที่มา:สำนักข่าว สสส.

 

                                                                                                Update:19-07-2553

            อัพเดทเนื้อหาโดย:คีตฌาณ์ ลอยเลิศ

Shares:
QR Code :
QR Code