พบบาดทะยัก คอตีบระบาดผู้ใหญ่แนะฉีดวัคซีนซ้ำ
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ เผยพบโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในกลุ่มผู้ใหญ่เพิ่ม เช่น โรคคอตีบ พบใน 15 จังหวัดแถบอีสาน เหตุไม่ได้รับวัคซีนซ้ำหลังจากเคยฉีดตอนเด็ก เตรียมออกคู่มือแนะประชาชนรับวัคซีนตามช่วงอายุ
ศ.นพ.เกรียง ตั้งสง่า ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวในการแถลงข่าว สูตรสำเร็จการลดการเจ็บป่วย “ฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ” ว่า โรคติดเชื้อในคนเกิดจากสาเหตุหลายประการ อาทิ แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และพยาธิ ซึ่งบางโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในเด็กและวัยผู้ใหญ่ จากการสำรวจผู้ป่วยที่เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งแต่ละปีมีมากกว่า 9 แสนราย ในจำนวน 1.4 แสนราย เป็นผู้ใหญ่อายุ 35-45 ปี เป็นผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่า 18% บางรายมีอาการรุนแรง เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ 11% และ 1 ใน 3 เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้นราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยจึงร่วมกับสมาคมวิชาชีพต่างๆ จัดทำคำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ปี 2555
ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ ประธานอนุกรรมการแนวทางเวชปฏิบัติและการจัดการความรู้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนสามารถป้องกันการเกิดโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน เช่น วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ สามารถป้องกันการเกิดโรคและการเสียชีวิตได้ 100% วัคซีนหัด คางทูม สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 99.99% ลดการเสียชีวิตได้ 100% วัคซีนโปลิโอสามารถป้องกันการเกิดโรคและการเสียชีวิตได้ 100% โดยวัคซีนเหล่านี้จะฉีดให้กับเด็กและหญิงตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่ได้มีการฉีดซ้ำในกลุ่มผู้ใหญ่ แต่ภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะลดลงเรื่อยๆ ตามวัย ดังนั้นจำเป็นต้องได้รับวัคซีนซ้ำในผู้ใหญ่ด้วย
“ที่ผ่านมาในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง กลุ่มผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุจะมารับวัคซีนซ้ำเป็นปกติ แต่ในไทยยังน้อยมาก เพราะปัญหาค่าใช้จ่ายกลัวแพง และเพราะรัฐบาลยังไม่ได้ให้การสนับสนุนให้ฉีดฟรี”
สำหรับคำแนะนำการให้วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ให้คำแนะนำ ปี 2555 แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้คือ 1.ผู้ใหญ่ช่วงต้นอายุ 18-26 ปี ต้องฉีดวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน วัคซีนเอชพีวี และวัคซีนตับอักเสบบี 2.ผู้ใหญ่ช่วงอายุ 27-65 ปี ควรฉีดซ้ำวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนตับอักเสบบี 3.กลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ควรฉีดซ้ำวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันนิวโมค็อกคัส หรือวัคซีนป้องกันการติดรุนแรงในผู้ป่วยโรคปอดบวม และ 4.กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรังควรฉีดซ้ำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนตับอักเสบบี และวัคซีนป้องกันนิวโมค็อกคัส
“การฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ทำให้ตอนนี้เราเริ่มเห็นการระบาดของบางโรคในกลุ่มผู้ใหญ่แล้ว เช่น บาดทะยักในผู้สูงอายุ 65 ปี โรคหัดพบทุกกลุ่มอายุที่สูงขึ้นกว่าเดิม และโรคคอตีบที่พบอุบัติการณ์สูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น” ศ.นพ.สมิงกล่าว
ด้าน ศ.นพ.ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร เลขานุการคณะกรรมการร่างคำแนะนำการให้วัคซีนในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ กล่าวว่า ขณะนี้พบการแพร่ระบาดของโรคคอตีบใน 15 จังหวัด โดยเฉพาะที่ภาคอีสาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันในเด็ก จนเกือบไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยแล้ว แต่พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังพบการระบาดอยู่เสมอในค่ายอพยพ โดยเฉพาะประชาชนในช่วงอายุ 10-30 ปี ที่ภูมิคุ้มกันโรคจะค่อยๆ ตกลง จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนซ้ำ ดังนั้นจึงอยากสนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนดังกล่าวควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และต้องฉีดซ้ำทุกๆ 10 ปี โดนเริ่มตั้งแต่วัยรุ่นเป็นต้นไป
“ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา วัคซีนที่ผู้ใหญ่นิยมไปฉีกซ้ำทุกปีคือ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประมาณปีละ 3,000 คน แต่วัคซีนประเภทอื่นไม่ค่อยมีใครไปฉีดเท่าไหร่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์