ผืนป่ากับผู้คน สู่พลังชุมชนที่ยั่งยืน

เรื่องโดย : พงศ์ศุลี จีระวัฒนรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจาก : งานกิจกรรมเยี่ยมภูหลง เดินลงป่า พาทำแนวกันไฟ รวมน้ำใจ ไทธาตุทอง ณ เทศบาลตำบลธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ วันที่ 10 มีนาคม 2567

ภาพโดย ฐิติชญา สัมปุรณะพันธุ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ

                    ป่าภูหลง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เป็นผืนป่าสำคัญ ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ประโยชน์เป็นแหล่งอาหาร เช่น เห็ด หน่อไม้ ไข่มดแดง และสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ในครัวเรือน รวมถึงเป็นแหล่งน้ำทำการเกษตร

                    เมื่อปี 2559 เกิดไฟป่ารุนแรงบนเทือกเขา  เกิดความเสียหายในพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 3,000 ไร่ ทำให้ภูมินิเวศของป่าเปลี่ยนแปลงไป สาเหตุหลักจากการลักลอบหาสัตว์ป่า การบุกรุกป่า และปัญหาไฟป่า  จุดไฟเผาป่าบ่อยครั้ง

                    เป็นเหตุให้ผลผลิตลดลง เกิดมลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง ควันไฟ ส่งผลกระทบชุมชนท้องถิ่นทั้งด้านวิถีชีวิตและสุขภาพ อย่างร้ายแรง ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่น เกิดอากาศแสบตา คัดจมูก ไม่สามารถนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภค บริโภคได้

                    อีกหนึ่งในกิจกรรมสัญจร นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่  จัด“เยี่ยมภูหลง เดินลงป่า พาทำแนวกันไฟ รวมน้ำใจไทธาตุทอง” โดยมีหน่วยพัฒนาและป้องกันป่าไม้ (ชย.7) อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เทศบาลตำบลธาตุทอง จ.ชัยภูมิ มีเป้าหมาย คือ การสร้างชุมชนที่น่าอยู่ พร้อมป้องกันปัญหาไฟป่าในพื้นที่ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อสร้างเครือข่ายปกป้องฐานทรัพยากรที่มีอยู่ จะได้ใช้ประโยชน์จากป่าร่วมกันอย่างยั่งยืน

                    “โดยสานพลังผู้คนในชุมชน ใช้ต้นทุนทางสังคม ฐานทรัพยากรที่มี มาร่วมสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่ โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ระเบิดจากข้างใน และเศรษฐกิจพอเพียงเป็นนวัตกรรมดำเนินงาน ทุกภาคส่วนสามารถใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน  ภายใต้การนำของเทศบาลตำบลธาตุทอง มีการทำงานที่เป็นระบบ มีศักยภาพพร้อมทิศทางการทำงานที่ชัดเจน”

                    ขานรับพลังชุมชนเข้มแข็ง จาก ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 และประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สสส. ผู้ร่วมทางกล่าวถึงการลงพื้นที่ป่าภูหลง จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นบริหารจัดการภูมินิเวศ  หวังพัฒนากลไกและศักยภาพผู้นำชุมชนสร้างนวัตกรรมการบริหารทรัพยากร

                    โดยเฉพาะ การเสริมศักยภาพผู้นำ ด้วยวิธีการใหม่ ๆ ที่เป็นนวัตกรรมในการบริหารจัดการทรัพยากร ดังกล่าว สสส. ได้เข้าไปสนับสนุนองค์ความรู้ เชื่อมร้อยท้องถิ่นเครือข่ายภูมิภาคเดียวกัน ในการทำงานดูแลทรัพยากรป่าภูหลง คาดหวังเกิดผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ เกิดอาสาสมัครจัดการไฟป่า ที่เชื่อมการทำงานร่วมกับหน่วยพิทักษ์ป่า พัฒนาแกนนำเด็ก และเยาวชนพิทักษ์ป่า เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ยั่งยืน

                    นายไพบูลย์ บุญโยธา รองปลัดและรักษาราชการปลัดเทศบาลตำบลธาตุทอง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า “สสส. ได้เข้ามาเสริมการทำงานเครือข่ายระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ เช่น หน่วยพัฒนาและป้องกันป่าไม้ (ชย.7) หน่วยองค์กรชุมชน องค์กรศาสนา เช่น วัดป่ามหาวัน ซึ่งมีพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เป็นศูนย์รวมจิตใจในการขับเคลื่อน ในการจัดการจัดการและรักษาทรัพยากร โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้ามาหนุนเสริมให้สามารถมุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรที่ยั่งยืน

                    สอดรับกับบทบาทการทำงานของชุมชน นายยุทธศาสตร์ วัชรธนาคม นายกเทศมนตรีตำบลธาตุทอง กล่าวว่า “ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่า และได้กำหนดเป็นนโยบายสาธารณะในการดำเนินงานมุ่งหวังให้ป่าในเขตรับผิดชอบของตนเองเกิดประโยชน์สุข ภายใต้กรอบการปฏิบัติตามกฎหมาย4 มาตรการ”

                    มาตราการการป้องกันฯ เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งที่มักจะเกิดไฟป่า เพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย การรณรงค์ประชาสัมพันธ์

                    มาตราการการดูแลรักษาป่าด้วยการพัฒนาศักยภาพทีมอาสาเฝ้าระวังไฟป่า ฝึกอบรมเครือข่ายผู้นำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ร่วมถึงการสร้างเครือข่ายการทำงานกับอปท.ข้างเคียงปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน ประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของคนอยู่ร่วมกับป่า

                    มาตรการส่งเสริมสนับสนุนการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ การปลูกป่าทดแทน การสร้างป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว การสร้างฝ่ายชะลอน้ำ และให้มีมาตราการการใช้ทรัพยากรจากป่ามาใช้อย่างเหมาะสม

                    มาตรการจำกัดการใช้ทรัพยากรป่าไม้อย่างจำกัด พร้อมด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมของ สสส.ในการประสานการทำงานระหว่างชุมชน เครือข่ายท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐพร้อมเป็นมาตรฐานความร่วมมือของการทำงานทุกภาคส่วนที่จะทำให้เกิดประโยชน์สุขกับชาวบ้านในชุมชนและอยู่ร่วมกับผืนป่าได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

                    ถ้าระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ความสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลาย เกิดภัยพิบัติสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของคนในชาติ เปลี่ยนชาวบ้านจากการบุกรุกทำลาย มาเป็นการอนุรักษ์ป่า เมื่อป่าก็ยังยืน ชุมชนก็ได้ประโยชน์จากป่า

                    สสส. มุ่งมั่นสนับสนุนองค์ความรู้ เชื่อมร้อยท้องถิ่นเครือข่ายภูมิภาค ทำงานดูแลทรัพยากรป่า  โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ที่เชื่อมการทำงานร่วมกับหน่วยพิทักษ์ป่า พัฒนาแกนนำเด็ก และเยาวชนพิทักษ์ป่า จัดการไฟป่า  สู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนได้แบบยั่งยืน

Shares:
QR Code :
QR Code