ปีใหม่กับข้ออ้างขอมีเพศสัมพันธ์

จะมีทางไหนที่ป้องกันได้

 

ปีใหม่กับข้ออ้างขอมีเพศสัมพันธ์

              เรื่อง “เซ็กซ์” กับ “วัยรุ่น” ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเป็น “ประเด็นร้อน” ให้ถกเถียงกันได้อย่างไม่จบสิ้น ยิ่งช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ วันลอยกระทง ถือได้ว่าเป็นวันฮอตฮิตทีเดียวสำหรับวัยรุ่นที่จะออกมาเสียตัวในค่ำคืนวันดังกล่าว ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่วัยคะนองทั้งหลายนิยมใช้เพื่อเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะขอ มีเพศสัมพันธ์ กับคนรัก

 

              ซึ่งจากผลสำรวจของศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม พ.ศ. 2551 เรื่องพฤติกรรมทางเพศและกิจกรรมของกลุ่มวัยรุ่นในช่วงเทศกาลสำคัญ สำรวจข้อมูลในนักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้น ม.4 – ม.6 และนักเรียนระดับ ปวช.1 – ปวช.3 จำนวน 8,317 ราย ช่วงอายุระหว่าง 16-18 ปี เป็นชาย จำนวน 4,075 ราย หญิง จำนวน 4,242 ราย ร้อยละ 86.81 อยู่กับบิดามารดาและญาติ ร้อยละ 13.18 อยู่กับบุคคลอื่น เช่น เพื่อนหรือแฟน

 

              สำหรับผลสำรวจพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องของการมีแฟนของวัยรุ่น พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 46.48 ระบุว่ามีแฟนแล้ว ร้อยละ 36.56 ไม่มีแฟน ร้อยละ 16.96 เคยมีแฟนแต่เลิกไปแล้ว ส่วนพฤติกรรมการออกไปเที่ยวคืนวันปีใหม่ในวัยรุ่น พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.34 ไปกับเพื่อน ร้อยละ 23.33 ไปกับครอบครัว และร้อยละ 16.66 ไปกับแฟน และเป็นที่น่าตกใจว่าการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในคืนวันปีใหม่มีจำนวนถึงร้อยละ 11.60 โดยอาศัยบ้านตนเอง บ้านแฟนและบ้านเพื่อน ถึงจำนวนร้อยละ 41.51 ร่วมไปถึงหอพักห้องเช่ารายวัน จำนวนร้อยละ 30.50

 

              ทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน…เพราะยิ่งนานวันก็ยิ่งดูเหมือน “เซ็กซ์” กับ “วัยรุ่น” จะกลายเป็น ปัญหาเรื้อรัง ที่ถึงแม้นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมวัยรุ่น พ่อแม่ผู้ปกครองออกมาเสนอแนะวิธีการที่ทั้ง ล้อมคอก” แล้ว “รื้อคอก” หันมา “สร้างคอกเสริมเหล็ก” แต่ก็ดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวยังคงไม่จบไม่สิ้น

 

ปีใหม่กับข้ออ้างขอมีเพศสัมพันธ์

              โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมสังคมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วย “สิ่งเร้าที่ยั่วยุ” ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นการแต่งตัวแบบ “นุ่งน้อยห่มน้อย” สื่ออินเทอร์เน็ต เกมออนไลน์ ภาพยนตร์ ซีดี รวมทั้งนิตยสาร ล้วนเป็นแรงกระตุ้นที่ดูคล้ายว่าจะทำให้วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 12 ปี ก็มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกแล้ว

สาเหตุมาจากอะไรล่ะ!!!

 

              ว่ากันว่า!! ครอบครัวก็คือสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เด็กเกิดการอยากรู้อยากลองในเรื่องของเพศศึกษา เพราะบางครั้งการกระทำในเรื่องทางเพศของพ่อแม่ที่เผอเรอจนทำให้ลูกหลานเห็น จุดนี้เองที่ทำให้วัยรุ่นเกิดการอยากรู้อยากลอง จึงคิดริเริ่มที่อยากจะมีแฟนและเกิดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรตามมา

 

              อีกสาเหตุหนึ่งก็มาจากการเที่ยวกลางคืนตามผับบาร์ที่ผิดกฎหมายไม่ใส่ใจสังคม ปล่อยให้เด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แล้วดื่มกินน้ำอันตรายจำพวกเหล้าเบียร์เข้าไปจนเมามายทำให้ขาดสติ จนทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมก่อนวัยขึ้นมา จนแล้วจนรอดก็เกิดการท้องก่อนวัยอันควร การทำแท้งจึงเป็นปัญหาสังคมที่พ่วงติดตามมา

 

              อย่าคิดว่าปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ของเด็กวัยรุ่นนั้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ทุกๆ ฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยเหลือกัน

 

              ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหน่วยงานหลักที่สำคัญที่สุด เพราะเด็กวัยรุ่นเองนั้นวุฒิภาวะทางความคิดและอารมณ์ในการตัดสินใจยังไม่ดีพอ เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นจึงคิดที่จะปรึกษาแฟนหรือเพื่อน โดยลืมคิดถึงคนที่บ้านว่าคนเหล่านั้นคือผู้ที่ให้คำตอบในการช่วยเหลือได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องเห็นความสำคัญในเรื่องนี้และมีแนวการแก้ไขแล้วปฏิบัติอย่างชัดเจน ร่วมไปถึงต้องสร้างค่านิยมการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง สามารถสร้างความสุขทางใจโดยไม่ต้องใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ลดการบูชาวัตถุนิยม ฟื้นฟูการดำเนินชีวิตตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย

 

              รวมไปถึงชุมชน สังคม และหน่วยงานต่างๆ เองก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลเด็กวัยรุ่น เมื่อพบเห็นการแสดงความรักที่ผิดๆ ในที่สาธารณะก็ต้องเข้าไปห้ามและทำการตักเตือน ว่าการกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี สนับสนุนให้วัยรุ่นหันมาสนใจสิ่งอื่นๆ รอบตัว หากิจกรรมให้ทำที่เป็นการสร้างความสุขและสนุกสนานที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ การเรียนรู้ธรรมะ สอนหลักปรัชญาชีวิต เล่นกีฬา การเต้น ดนตรีการแสดงต่างๆ การออกกำลังกาย และการอ่าน สำหรับโรงเรียนนั้นเป็นสถานที่หนึ่งที่วัยรุ่นใช้ชีวิตอยู่มากที่สุด ก็ต้องปลูกฝังในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ต้องมีครูที่มีทัศนะคติในเรื่องของการสอน และการแก้ไขปัญหาในเรื่องเพศศึกษาให้เข้าถึงตัววัยรุ่นเองให้มากที่สุด มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันเหตุการณ์ในปัจจุบัน และดูแลให้ความใกล้ชิดนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้ดีที่สุด

 

              สำหรับผู้ที่ควรจะเป็นผู้ริเริ่มคุยเรื่องเพศศึกษากับวัยรุ่นได้ดีที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “ผู้ปกครอง” ของวัยรุ่นนั้นเอง

 

              พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องเป็นเสาหลักในการให้ความรักความอบอุ่นดูแลใกล้ชิด เป็นตัวอย่างที่ดีไม่ประพฤติผิดทางกาม ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องทางเพศแก่ลูกหลานอย่างถูกต้อง อย่าอายที่จะต้องสอน รวมทั้งต้องให้รู้จักคิดเป็น เพื่อเป็นการแยกแยะว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก เพราะถึงเวลาแล้วที่พ่อแม่และผู้ปกครอง จะหันกลับมาดูแลและเปิดใจพูดคุยเรื่องเพศกับลูกหลาน ที่นอกจากจะทำให้เห็นมุมมองเรื่องนี้ของลูกหลานของตนเองเพิ่มมากขึ้น และอาจเป็นการเพิ่มความรักในครอบครัวได้อีกด้วย ดีกว่าให้ “เด็ก” ไปเรียนรู้ “เซ็กส์” ด้วยตัวเองแล้วปัญหาก็จะเกิดตามมาไม่รู้จักจบสิ้นไปเสียที

 

ปีใหม่กับข้ออ้างขอมีเพศสัมพันธ์

              แต่ที่สำคัญที่สุด!!!...ตัววัยรุ่นเองต้องมีสติมองให้เห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นหากไม่มีการรักนวลสงวนตัว ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย หรือเพศหญิงโดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องรู้จักการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องปัญหาของวัยรุ่น จัดกิจกรรมสร้างค่านิยม ลด ละ เลิก การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากเพื่อนสู่เพื่อน

 

              หากสังคมเรายังเพิกเฉยต่อไปแบบนี้ ในอนาคตจะย่ำแย่ลงไปอีกสักแค่ไหน ขืนละเลยเด็กให้มี สิทธิเสรีภาพมากเกินไป อะไรก็อ้างว่าเป็นสิทธิของเด็ก พ่อแม่ หรือคนที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ ควรจะสร้างพฤติกรรมให้เด็กมีความรับผิดชอบมากขึ้น เมื่อผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด ไม่ใช่ว่าพอทำผิดก็ให้พ่อแม่รับโทษแทน จนทำให้วัยรุ่นไม่รู้สึกว่าโดนทำโทษ แม้กระทั้งเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของวัยรุ่น ในเรื่องของการมีเซ็กส์หรือการกอดจูบลูบคลำกันก็ได้แต่ตักเตือน ไม่สามารถทำโทษอะไรได้ เพราะถือว่าไม่ได้เป็นความผิดตามกฏหมาย ทำให้วัยรุ่นเองไม่รู้ว่าการกระทำแบบนั้นของตัวเองเป็นพฤติกรรมที่ผิด เป็นการทำร้ายตัวเองและสังคมในอนาคต

 

              เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นนั้นก็คือ ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทยนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย: ภราดร เดชสาร Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update:18-12-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร

 

Shares:
QR Code :
QR Code