ปลุกจิตสำนึก “แรงงานไทยร่วมใจ งดเหล้าเข้าพรรษา”
หลังแรงงานเสียค่าเหล้า 500 บาท/สัปดาห์
ก.แรงงาน-สสส.-มูลนิธิเพื่อนหญิง-เครือข่ายงดเหล้า ผนึกพลังครั้งใหญ่ ปลุกจิตสำนึก “แรงงานไทยร่วมใจ งดเหล้าเข้าพรรษา” เผย 80 โรงงาน ร่วมปฏิญาณตน “คนงานรุ่นใหม่ไร้แอลกอฮอล์” อึ้ง! แรงงานยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าเหล้า 500 บาทต่อสัปดาห์ ซดเหล้าขาวบ่อยสุด ขณะที่นายจ้าง ย้ำ ไม่ต้องการพนักงานขี้เมา
วันที่ 16 ก.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “แรงงานไทยร่วมใจ งดเหล้าเข้าพรรษา” จัดโดย กระทรวงแรงงาน มูลนิธิเพื่อนหญิง เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมรณรงค์มากมาย อาทิ การปฏิญาณตนของกลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวน 200 ราย เพื่องดเหล้าเข้าพรรษา การเปิดตัวครอบครัวคนงานต้านน้ำเมา การแสดงละครชุด “ปีศาจน้ำเมา ทำร้ายแรงงานไทย” พร้อมทั้งแจกสื่อรณรงค์เชิญชวนให้ผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปงดเหล้าเข้าพรรษา
โดยนายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เกิดการสูญเสียในหลายด้าน จากข้อมูลการศึกษาต้นทุนผลกระทบทางสังคม สุขภาพ และเศรษฐกิจ ของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย โดยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ในส่วนที่เกี่ยวกับแรงงาน ปี 2549 พบว่า แอลกอฮอล์ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจมากถึง 156,105 ล้านบาท หรือประมาณ 2,391 บาทต่อราย และยังก่อให้เกิดการขาดประสิทธิภาพในการทำงาน มีมูลค่าถึง 45,500 ล้านบาท นอกจากนี้ สถิติกลุ่มแรงงานที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมากถึง 40,000 ราย ซึ่งผู้ที่ดื่มหรือเคยดื่มจะขาดงานเพราะปัญหาสุขภาพ ทำให้ประสิทธิภาพขณะทำงานลดลงกว่าผู้ไม่ดื่มถึง 1.7 – 5.7 %
“ปัญหาดังกล่าว ทางมูลนิธิเพื่อนหญิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงถือโอกาสใช้เทศกาลเข้าพรรษาในวันที่ 27 ก.ค. นี้ ซึ่งตรงกับวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้น นำไปสู่จุดเปลี่ยนของการลด ละ เลิกเหล้า และอบายมุข ของผู้ใช้แรงงาน โดยจะเน้นรณรงค์ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เน้นให้กลุ่มเพื่อนในโรงงานมีบทบาทสำคัญชวนเพื่อนเลิกเหล้า พร้อมทั้งการปฏิญาณตนว่าจะเป็นคนงานรุ่นใหม่ไร้แอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มผู้ใช้แรงงานร่วมปฏิญาณตนแล้วจำนวน 200 ราย จากโรงงาน 80 แห่งทั่วประเทศ” นายจะเด็จ กล่าว
นายพิทักษ์ เสียงหอม นายจ้าง บริษัทบางกอกรับเบอร์ สหรัตน จำกัด กล่าวว่า พนักงานที่บริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมากถึง 80% จึงไม่ค่อยมีปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีเพียงผู้ชายบางส่วนเท่านั้น ที่ยังมีพฤติกรรมการดื่มจนไม่สามารถมาทำงานได้ พนักงานบางคนถึงขั้นขาดงาน เข้างานสาย และแอบหลับในเวลาทำงาน ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เพราะมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้มีการว่ากล่าวตักเตือนและส่งเสริมให้เกิดค่านิยมที่ช่วยให้ลด ละ เลิก ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าการลงโทษให้พนักงานพักงาน หรือออกจากงาน ทั้งนี้ ในช่วงงานบุญเข้าพรรษาตลอด 3 เดือนนี้ บริษัทได้เชิญชวนให้พนักงานทุกคนปฏิญาณตนเพื่องดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงเทศกาลประจำปี
ด้านนายราคิต สร้อยสูงเนิน ประธานสหภาพแรงงานน้ำใจไทยสัมพันธ์ และพนักงานบริษัท ยางโอตานิ จำกัด กล่าวว่า พนักงานในบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งมีมากกว่า 70% ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มเหล้าขาวมากที่สุด ทั้งนี้ จากการสอบถามคนงานที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ยอมรับว่า เขาต้องสูญเสียรายได้ไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบ 500 บาทต่อสัปดาห์ บางครั้งเงินเดือนที่ได้รับไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว และยังพบปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาหย่าร้าง ครอบครัวแตกแยก ดังนั้น การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาจึงเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตนเชื่อว่า มีผู้ใช้แรงงานหลายคนที่ต้องการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ และคงไม่มีบริษัทนายจ้างที่ไหนต้องการแรงงานกินเหล้า สูบบุหรี่
ที่มา : สำนักข่าวสสส.
Update:16-07-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่