ปรับรูปแบบสายด่วน 1668 ช่วยผู้ป่วยโควิด-19

ที่มา : กรมการเเพทย์


ปรับรูปแบบสายด่วน 1668 ช่วยผู้ป่วยโควิด-19 thaihealth


แฟ้มภาพ


อธิบดีกรมการแพทย์ เผยการปรับรูปแบบสายด่วน 1668 ศูนย์บริหารจัดการเตียง โดยดำเนินงานบริหารจัดการแบบ One stop service บูรณาการร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภาคเอกชน บริษัท เทล ทู เทล จำกัด บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และจิตอาสาร่วมกันประสานเตียง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง


นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิดระลอกใหม่ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งมีสถานการณ์การระบาดในวงกว้างและรวดเร็ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนเกิดปัญหาไม่สามารถเข้ารับการรักษาในพยาบาลได้อย่างทั่วถึง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ดำเนินการจัดตั้งช่องทางสายด่วน 1668 เฉพาะกิจ ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2564 เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น


อย่างไรก็ตามเนื่องจากสายด่วน 1668 เป็นคู่สายที่พัฒนามาจากสายด่วนสำหรับรักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ดังนั้นจึงก่อให้เกิดปัญหาคู่สายไม่เพียงพอ และไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์การระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้


ดังนั้น ทีมคณะทำงานจึงได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลการติดต่อผ่านช่องทางสายด่วน 1668 พบว่า ในจำนวนผู้ติดต่อเฉลี่ยประมาณ 1,100 สายต่อวัน เป็นผู้ติดเชื้อโควิดยืนยันที่ต้องการติดต่อประสานเตียงในกรุงเทพมหานครเพียง 200 สายต่อวันเท่านั้น จึงได้มีการระบบการทำงานรูปแบบใหม่บูรณาการร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภาคเอกชน บริษัท เทล ทู เทล จำกัด บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และจิตอาสา โดยดำเนินงานบริหารจัดการแบบ One stop service จำแนกทีมดำเนินการเป็นสามส่วน คือ 1.ทีม Frontline Call center  2. ทีมรับสายและประเมินอาการ 3. ทีมบริหารจัดการเตียงและข้อมูล ซึ่งทั้ง 3 ทีมจะดำเนินการร่วมกันตั้งแต่การรับเคสผู้ป่วยจนสามารถหาเตียงให้กับผู้ป่วยโควิดได้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลหรือ Hospitlel ได้


อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของ Frontline Call Center จะเป็นความร่วมมือกับภาคเอกชนในนาม บริษัท เทล ทู เทล จำกัดในการขยายคู่สายเพิ่มเติม และได้ประชาชนจิตอาสามาให้ความช่วยเหลือในการรับสายโทรศัพท์และจำแนกสายที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโควิดยืนยันต้องการเตียงในเขตกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาศักยภาพทีมรับสายและประเมินอาการ ทีมบริหารจัดการเตียงและข้อมูลซึ่งเป็นกลุ่มบุคลากรกรมการแพทย์  พัฒนาการส่งต่อและการจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ One stop service มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

Shares:
QR Code :
QR Code