บัณฑิตยุคใหม่ฉลอง “ไร้แอลกอฮอล์”
“วันแห่งความสำเร็จในการศึกษา หลังจากที่ใช้เวลามายาวนาน 3-4 ปี อาจสูญเปล่าในชั่วพริบตาเดียว หากเราเลือกที่จะดื่มเหล้าเฮฮาในวันฉลองรับปริญญาบัตร และผมก็เชื่อว่าคงจะเท่ห์มากหากงานฉลองให้กับปริญญาบัตรใบแรกไม่มีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง”
คำพูดของ อุกฤษฎ์ จันทวี หรือที่เพื่อนๆ เรียกเขาว่า “ใหญ่” บัณฑิตหนุ่มวัย 23 ปี จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ให้ข้อคิดดีๆ และนี่ก็คือเหตุผลที่เขากับเพื่อนอีกหลายคนเข้าร่วม “โครงการรณรงค์งานรับปริญญาปลอดเหล้า”
ใหญ่ เคยเป็นนายกองค์การนักศึกษามาก่อนและเคยมีบทบาทสำคัญในการร่วมมือกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า อุกฤษฎ์ จันทวี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อขับเคลื่อนกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งรณรงค์มหาวิทยาลัยปลอดเหล้า โดยยืนหยัดความตั้งใจนี้อย่างต่อเนื่อง
ใหญ่ เล่าย้อนไปถึงช่วงที่เป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยว่าสถาบันที่ตนเองเรียนช่วงนั้นแวดล้อมไปด้วยสถานบันเทิงที่ขายเหล้า-เบียร์ มีสิ่งยั่วยุที่ล้วนจูงใจให้เข้าไปใช้บริการ หลายคนที่เคยลองเข้าไปสัมผัสมาแล้ว ก็พบว่า มีผลกระทบมหาศาลต่อชีวิต เช่นเมาเหล้า ตื่นสาย เรียนช้า เกรดตก จบไม่ทันเพื่อน แม้เรียนจบได้หลายคนที่เลือกฉลองความสำเร็จด้วยการดื่มเหล้าเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุพิการบ้าง เสียชีวิตบ้าง เป็นอุทาหรณ์คอยเตือนใจที่ทำให้ตนเองพาตัวออกห่างจากเหล้าเบียร์ เพราะกลัวชีวิตจะดับวูบหรือจมดิ่งไปเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ขณะที่ ณัฐชัย ไชยใส หรือ “อาร์ท” นักศึกษาคณะเดียวกันกับใหญ่ ยอมรับว่าตัวเองดื่มเหล้าบ้างในบางครั้งแต่ก็ดื่มแต่พอควร เพราะรู้ว่าตัวเองต้องเรียนหนังสือให้จบ แต่ในงานพระราชทานปริญญาบัตรปีนี้ ถือเป็นโอกาสแห่งการฉลองความณัฐชัย ไชยใสสำเร็จกับครอบครัวและกับเพื่อน อาร์ทเลือกที่จะงดดื่มเหล้า และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับโครงการดีๆ ของ สสส.ที่มีส่วนในการสร้างความตระหนักให้แก่เยาวชนไทยในเรื่องการฉลองโอกาสสำคัญแบบไร้แอลกอฮอล์
รศ.สุมาลี ไชยศุภรากุล รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า แต่ละปีมีบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยฯ ราว 3,000 ราย บางปีพบเจอนักศึกษาประสบอุบัติเหตุในวันสำคัญของชีวิตเพราะเหตุจากการดื่มเหล้าก็รู้สึกเห็นใจพ่อแม่และครอบครัวที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยก็พยายามแก้ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาโดยตลอด เช่น ขอความร่วมมือร้านค้ารอบๆ การบังคับใช้กฎหมายต่างๆ เข้าตรวจสอบ แต่ก็ได้ผลเพียงระดับหนึ่งและเชื่อว่าไม่มีแนวทางใดในการแก้ปัญหานี้จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้เท่ากับการปรับทัศนคติของนักศึกษาเองโครงการรับปริญญาปลอดเหล้าเป็นอีกส่วนที่จะช่วยได้ ก็ควรที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันสนับสนุน เพื่อช่วยให้บัณฑิตในบ้านเมืองเราที่กำลังจะก้าวไปมีอนาคตที่สดใสสามารถเติบโตในตลาดงานได้
ทางด้าน ชัยณรงค์ ดำแดงผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ปี 2554 นี้ทางเครือข่ายฯ จะจัดนำร่องโครงการรับปริญญาปลอดเหล้าใน 5 พื้นที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตชัยณรงค์ ดำแดงมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมกทม. มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี และมหาวิทยาลัยนครราชสีมา จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ขยายการดำเนินงานไปทั่วประเทศ
ที่ผ่านมาทางเครือข่ายฯ ได้เคยศึกษาวิจัยถึงงบประมาณในการเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ พบว่า มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกราวๆ งานละ 20,000 – 30,000 บาท คิดเป็นค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเป็นงานรับปริญญาค่าใช้จ่ายหลายอย่างก็ยิ่งสูงอยู่แล้ว หากต้องมาเสียค่าใช้จ่ายเพื่อฉลองจนเมามายอีกคาดว่ารายๆ หนึ่งคงต้องจ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว และหากโชคร้ายเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ หรือทะเลาะวิวาท ก็ก่อให้เกิดความสูญเสียตามมาเท่ากับใช้เงินไปแบบไร้ประโยชน์ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างจิตสำนึกให้แก่บัณฑิต และสามารถช่วยลดจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด