“นิทาน” เสริมศักยภาพแห่งจินตนาการ
“แอลดี คืออาการบกพร่องทางการเรียนรู้ อ่าน เขียน คำนวณ สัญลักษณ์ทางสังคม รวมไปถึงทักษะการบริหารจัดการตัวเอง ซึ่งมีความซับซ้อนและไม่มีลักษณะตายตัว แต่จะมีลักษณะพิเศษคือ จินตนาการ ที่เป็นเลิศและ ฉลาด ระดับไอคิวสูง”
รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ รักษาการราชการแทน ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษา และพัฒนาการจัดการศึกษาพิเศษ คุณพุ่ม นิยามความหมายของอาการแอลดี หรือ learning disability โรคทางสมองที่กำลังคุกคามคุณภาพชีวิตของ เด็กไทยรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ยังมีพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่มากนักที่รู้เท่าทันอาการของโรค และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนำไปสู่การรักษาดูแลเพื่อให้หายขาด แต่เด็กที่ป่วยด้วยภาวะแอลดีนั้น ไม่ใช่เด็กที่มีความพิการทางสมอง และอาการของโรคก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับดาวน์ ซินโดรม เด็กแอลดีนั้น สามารถใช้ชีวิต และประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป หากพวกเขาสามารถเรียนรู้ที่จะปรับตัว พวกเขาจะอยู่ได้ในสังคม
จิตแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ทางสมองกล่าวว่า เด็กแอลดี เป็นอาการที่วินิจฉัยได้ยากในกลุ่มโรคพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องทางการเรียนรู้ และภาวะแอลดีนี้อาจเกิดขึ้นจากความไม่สมดุลย์กันของสารเคมีในสมอง หรือการดำรงชีวิตของเด็กในช่วงวัยทารก จนถึงช่วงก่อนวัยเรียน เด็กแอลดีส่วนใหญ่จึงจะเริ่มสะท้อนปัญหาการใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่นเมื่อถึงวัยเข้าเรียน
อันที่จริงแล้ว อาการของโรคแอลดีนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ และความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการปรับพฤติกรรม สร้างสภาพแวดล้อมให้ เอื้ออำนวยต่อการสร้างสมาธิ และนี่เป็นที่มาของโครงการ สื่ออ่านสร้างสุขเพื่อเด็กแอลดี จากแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย โดยใช้การอ่านหนังสือเข้ามาเป็นศาสตร์ ที่ใช้บำบัดอาการแอลดี
สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. อธิบายว่า การอ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่อายุ 4-6 เดือนนั้น เป็นเสมือนการบ่มเพาะนิสัยการอ่าน และสะสมหนังสือ ซึ่งวันหนึ่งเราจะพบว่าเด็กจะหยิบหนังสือขึ้นมาฝึก อ่านเอง วิธีนี้เป็นการทลายกำแพงความบกพร่องทางการเรียนรู้ของเด็ก
นอกจากนั้น การอ่าน อาจช่วยทำให้พ่อแม่เริ่มสังเกตอาการระยะแรกๆ ของเด็กแอลดี และหากพบอาการผิดปกติและสามารถพาเด็กไปพบแพทย์ได้ทัน เด็กๆ ก็จะมีโอกาสหายขาดจากโรคได้ถึง 80% “ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ในสังคมยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องแอลดีอย่างมาก เราพบว่าเด็กมักโดนทำร้ายโดยพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่เกิดความไม่เข้าใจเรื่องแอลดี กลายเป็น ความหงุดหงิด และไม่พอใจแล้วลงมือทำร้ายร่างกายเด็ก จนเกิด ความบอบช้ำทั้งทางร่างกาย และจิตใจ นอกจากนี้เด็กแอลดี ยังไม่สามารถทนต่อระบบการศึกษาในโรงเรียน ซึ่งถูกปิดประตูจากครูอีกเช่นกัน เด็กจึงหันเหชีวิตเข้าสู่ความเสี่ยงมากขึ้น เป็นการปิดประตูโรงเรียน และปล่อยเด็กสู่ประตูคุกในที่สุด นับเป็น ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะการจะสร้างสรรค์คนดีนั้น ต้องเริ่มสร้างตั้งแต่วัยเด็ก” คุณสุดใจ กล่าว
ทางด้านครูชีวัน วิสาสะ นักเล่านิทานผู้สร้างสรรค์สื่อสำหรับเด็ก แนะนำให้ใช้นิทานมาเป็นสื่อในการพัฒนาเด็กพิเศษ โดยเชื่อมั่นว่า เด็กๆ แต่ละคนมีพรสววรค์ในการสร้างจินตนาการ การใช้หนังสือภาพเข้ามาเป็นสื่อเสริมศักยภาพ จะช่วยบำบัดอาการของเด็กแอลดีได้
การใช้หนังสือนิทาน หนังสือภาพ เข้ามาบำบัดอาการ แอลดีอาจเป็นเพียง “เครื่องมือ” เท่านั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การเอาใจใส่ ดูแล การหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อย หากพบภาวะที่ดูจะผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรักษา และดูแลให้เด็กๆ เติบโตในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ