นักสิทธิสตรีอาเซียน เดินหน้าขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางเพศ

นักสิทธิสตรีอาเซียน ประสานเสียง เรียกร้อง AEC ให้ความสำคัญ “ความเป็นธรรมทางเพศ” ไม่กีดกัน – เลือกปฏิบัติ – เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน  “ตัวแทนฟิลิปปินส์” เสนอ กม. คุ้มครองดูแล – เยียวยาแรงงานข้ามชาติหญิง

วันที่ 17 มิถุนายน ที่โรงแรมไมด้า ซิตี้ รีสอร์ท กรุงเทพฯ แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สมาคมเพศวิถีศึกษา ร่วมจัดงานเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การสร้างความเข้มแข็งงานขับเคลื่อนด้านความเป็นธรรมทางเพศ : ประสบการณ์จากเพื่อนบ้านอาเซียน

โดย ศ.เกียรติคุณ พญ.เพ็ญศรี พิชัยสนิธ นายกสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระบรมอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ กล่าวว่า ความตื่นตัวกับการเกิดประชาชาคมอาเซียน ในปี 2558 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า มักจะมุ่งเน้นประเด็นทางเศรษฐกิจและภาษา ขณะที่ประเด็นความเป็นธรรมทางเพศกับไม่มีการพูดถึง ทั้งๆ ที่ควรถูกสอดแทรกเข้าไปในทุกๆ เรื่อง ทั้งนี้ ความเป็นธรรมหมายถึงหญิง ชาย หรือเพศอื่นๆ ให้สามารถเข้าถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม สิ่งนี้เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและประชาธิปไตย

“ทุกวันนี้สถานภาพผู้หญิงในอาเซียนดีขึ้นทั้งด้านการศึกษา รายได้ โดยมีผู้หญิงเป็นผู้นำในหลายๆ ด้าน แต่ดูเหมือนเรื่องสิทธิสตรีจะยังไม่ได้รับความสนใจ ผู้หญิงหลายต่อหลายคนยังถูกกีดกัน เลือกปฏิบัติ ต้องทำงานบ้าน หาเลี้ยงครอบครัว ไม่ได้รับการดูแลด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ทนทุกข์กับความรุนแรงของครอบครัว และความรุนแรงทางเพศ จึงเชื่อว่าเวทีนี้ เป็นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้บรรลุถึงความเป็นธรรมและความเท่าเทียมทางเพศ”ศ.เกียรติคุณ พญ.เพ็ญศรี กล่าว

ด้าน น.ส.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สสส. กล่าวว่า กระบวนการขับเคลื่อนสิทธิสตรีและความเป็นธรรมทางเพศในประเทศไทยและอาเซียนมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นยาวนาน 20-30 ปี แต่ปัญหาหลายอย่างยังอยู่ ซึ่งเป็นผลจากความไม่เป็นธรรมทางเพศ แม้จะมีกฎหมายคุ้มครอง แต่ในทางปฏิบัติยังไม่ได้นำมาใช้อย่างเต็มที่เพราะทัศนคติของคนในสังคมไม่ได้เปลี่ยน ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ คาดหวังว่าจะเป็นเวทีในการรับฟังความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งปัญหา อุปสรรค และปัจจัยความสำเร็จ เพื่อสร้างสังคมอาเซียนที่ทุกเพศ ทุกวัย ได้รับโอกาส สิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เพียงการพูดคุยประเด็นเศรษฐกิจหรือฝึกทักษะภาษาอาเซียนเท่านั้น

น.ส.อัลนี โฟจา นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางเพศ ว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2555รัฐสภาฟิลิปปินส์ได้ผ่านร่างกฎหมายอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งได้พูดถึงการให้ความเสมอภาคกับผู้หญิง หากมีกฎหมายก็ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็จะมีส่วนสนับสนุนให้ผู้หญิงได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งนี้ เรื่องสิทธิสตรีเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับคนส่วนใหญ่ ซึ่งการขับเคลื่อนในฟิลิปปินส์จะต้องครอบคลุม3 ด้าน คือ 1.การผลักดันกฎหมาย 2. นำกฎหมายไปสู่การปฏิบัติ 3. มีส่วนร่วมกระบวนการทางศาล ยกตัวอย่างกรณีรัฐบาลลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ (CEDAW) มีข้อเสนอแนะสำหรับหญิงแรงงานข้ามชาติ หากรัฐส่งเสริมแรงงานหญิงออกนอกประเทศ ถูกละเมิดทางเพศโดยนายจ้าง ต้องให้การช่วยเหลือทางกฎหมายและการเยียวยา แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือ กลับไม่มีการช่วยเหลือใดๆ จากรัฐ จึงถือว่ารัฐเป็นผู้มีส่วนให้เกิดการละเมิด

 

 

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข 

Shares:
QR Code :
QR Code