ทัวร์แหล่งเรียนรู้ สู่เมืองน่าอยู่ที่ “แปดริ้ว”

วิกฤติการณ์ของสังคมไทย เกิดจากการเอาฐานไปเติมยอด คือการแย่งชิงและสูบเอาทรัพยากรทุกชนิดจากฐานล่างของสังคมไปให้ส่วนบน ทำให้ฐานล่างของสังคมอ่อนแอ และสังคมทั้งหมดทรุดตัวลง ฐานล่างของสังคมคือชุมชนท้องถิ่น

 

การจะแก้วิกฤตการณ์ได้ ต้องส่งเสริมให้ฐานล่างของสังคมแข็งแรง การพัฒนาพื้นที่เป็นตัวตั้ง ต้องพัฒนาอย่างบูรณาการทุกเรื่องอย่างเชื่อมโยงกันใน 8 เรื่อง คือ เศรษฐกิจ-จิตใจ-ครอบครัว-ชุมชน-สังคม-วัฒนธรรม-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพศ.น.พ. ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส

 

ทัวร์แหล่งเรียนรู้ สู่เมืองน่าอยู่ที่ “แปดริ้ว”

ความล้มเหลวของการพัฒนาแบบเดิมๆ ก่อให้เกิดความล่มสลายของชุมชนระดับฐานรากของประเทศ จึงก่อให้เกิดแนวคิด การสร้างจังหวัดน่าอยู่

 

แปดริ้ว ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดเป้าหมาย ของการพัฒนาให้กลายเป็น เมืองน่าอยู่โดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จังหวัดฉะเชิงเทรา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ องค์การบริหารส่งตำบลดงน้อย เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทยจำกัด (โรงงานบ้านโพธิ์) และเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งได้ประกาศเจตนารมณ์ให้ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดน่าอยู่ ภายใต้สโสแกน แปดริ้ว เมืองน่าอยู่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ที่ผ่านมา 

           

หนึ่งในตัวอย่างของการพัฒนาให้ แปดริ้วกลายเป็นเมืองน่าอยู่คือ การสร้างแหล่งเรียนรู้ เพื่อถ่ายทอดความรู้ และสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน

 

เทศบาลตำบลบ้านซ่อง ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจของจ.ฉะเชิงเทรา เพราะมีศูนย์รวมความรู้ที่หลากหลาย ทั้งโรงเรียนชีวิตเกษตรกร อย่าง ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลบ้านซ่อง แหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาพื้นบ้านกับการจัดการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง พัฒนาที่ดิน และยังเป็นหน่วยบริการของชุมชนทางด้าน การบริการตรวจวิเคราะห์ดิน บริการตรวจสารพิษตกค้างในพืชผล การตอนสัตว์ ผสมเทียม การกรวดน้ำบ่อปลา รวมถึงบริการข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ อย่างการพยากรณ์ การเตือนภัยธรรมชาติ ภัยศัตรูพืช และภัยเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้ยังมี ระบบ ธนาคารชุมชนที่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สู่สถาบันการเงินที่เข้มแข็งของชุมชน จนในปัจจุบันมีระบบเงินออมของคนในชุมชนถึง 21 ล้านบาท  และห้องเรียนที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนที่สนใจ อย่าง กลุ่มดอกไม้ประดับ  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนธารทิพย์ที่แปรผลผลิตทางการเกษตร อย่างข้าวกล้องและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า  

 

แหล่งเรียนรู้ในเทศบางตำบลบ้านซ่อง ถือเป็นตัวอย่างของการถ่ายทอดความรู้ ที่เกิดจากความร่วมมือในการทำงานของทุกภาคส่วน

 

สำหรับเป้าหมายของคนแปดริ้ว สู่เมืองน่าอยู่นั้น นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ทิศทางในการพัฒนาในครั้งนี้คือ เกษตรไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ด้วยการส่งเสริมการทำการเกษตรอินทรีย์ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเป็นเมืองที่ปลอดภัยน่าอยู่ และมีความหวังว่า มหาวิทยาลัยจะเป็นมันสมองให้กับจังหวัดในการพัฒนา 

 

ซึ่งรูปแบบของการพัฒนาให้เป็น แปดริ้ว เมืองน่าอยู่นั้น ได้ใช้ มหาวิทยาลัยเป็นแกนกลางในการประสาน และเชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆเข้าด้วยกัน

 

น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน สสส. กล่าวว่า เป้าหมายของสสส.ในการสนับสนุนให้เกิดจังหวัดน่าอยู่ ก็เพื่อพัฒนาสุขภาพของชุมชนผ่านงานตำบลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัด และผลักดันให้เกิดเป็นนโยบายสาธารณะหรือข้อตกลงร่วมของชุมชน จนนำไปสู่นโยบายสาธารณะในระดับจังหวัดที่ตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนอย่างแท้จริง ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยจังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย จ.นครศรีธรรมราช ฉะเชิงเทรา อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และพะเยา   ซึ่งจังหวัดนำร่อง จะต้องขยายผลสู่จังหวัดอื่นอีก 3 จังหวัด เพื่อสร้างให้เกิดเมืองน่าอยู่

 

สาเหตุที่เลือก จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดน่าอยู่ เพราะมีเครือข่ายการทำงานชุมชนค่อนข้างมาก แต่ยังอยู่กระจัดกระจาย ขาดการทำงานที่เชื่อมโยงกัน จึงหาวิธีรวมเครือข่ายต่างๆ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และมาทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างให้จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเมืองน่าอยู่ โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัชราชนครินทร์ เป็นแกนกลางในการประสานงาน เพราะเป็นสถาบันทางวิชาการ ที่มีเครือข่ายและลูกศิษย์ที่ทำงานด้านชุมชนค่อนข้างมาก รูปแบบในการทำให้ แปดริ้ว เป็นเมืองน่าอยู่จึงประกอบไปด้วยการทำงานร่วมกันของ ท้องถิ่น เครือข่ายเชิงประเด็น และหน่วยงานราชการภูมิภาค โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นตัวเชื่อม ส่วนสสส.จะเข้าไปสนับสนุนให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ในการนำมาใช้ขับเคลื่อนเชิงนโยบายระดับท้องถิ่น

 

ผศ.เอนก เทพสุภรณ์กุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ จะเป็นหน่วยกลางในการประสานระหว่างส่วนราชการ ท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชน โดยจะตั้ง ศูนย์ประสานงานแปดริ้วเมืองน่าอยู่ ทำหน้าที่จัดทำข้อมูล ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย และหาแนวทางพัฒนาหน่วยงานในชุมชน รวมทั้งเป็นศูนย์รวมในการเชิญกลุ่มต่างๆมาร่วมกันทำงาน เพื่อให้คนในจังหวัดมีความรู้ และมีวิชาชีพ  หนุนเสริมชุมชนเพื่อพัฒนาชุมนชนให้น่าอยู่ และสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชนให้ยั่งยืน และเดินได้ด้วยตัวเอง

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

update: 25-06-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: คีตฌาณ์ ลอยเลิศ

 

Shares:
QR Code :
QR Code