ตำราวัฒนธรรมมีชีวิต’ครูสอนดี’ภาคใต้

หนูพิมพ์มาเป็นครูสอนเด็กในหมู่บ้านพบปัญหาอะไรบ้าง เด็กๆ ไม่มีอาคารเรียนค่ะ เพราะรัฐบาลไม่มีงบเราก็ต้องระดมทุนกันเองแหละจ้ะตา… เสียงพากย์สลับไปมาเป็นชายชรากับหญิงสาว บอกเล่าปัญหาอมตะของการศึกษาไทยกับลีลาเชิดหนังตะลุงอันแพรวพราวพลิ้วไหวราวกับเสกให้หนังตะลุงมีชีวิต สะกดผู้ชมดั่งต้องมนต์ให้ใจจดจ่อไปกับจอผ้าสีขาวกางขึงอยู่เบื้องหน้าอย่างมิรู้เบื่อ

ด้วยฝีมือการแสดงอันเฉียบขาดของ ครูเคล้า โรจนเมธากุล ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงหนังตะลุงประจำปี พ.ศ. 2555 และครูภูมิปัญญาซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นครูสอนดีภาคใต้ในงานสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาสมรรถนะครูสอนดีภาคใต้ ซึ่งสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมพาวิลเลียน ควีนส์ เบย์ อ.เมือง จ.กระบี่

ครูเคล้า เล่าว่า พื้นเพครอบครัวทั้งปู่และพ่อเป็นนายหนังตะลุงใน จ.นครศรีธรรมราช จึงได้รับถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมภาคใต้แขนงนี้มาจากบรรพบุรุษ เมื่อย้ายมาอยู่ จ.กระบี่ ก็นำความรู้นี้มาถ่ายทอดแก่เยาวชนในภาคใต้ โดยใช้บ้านของตนเองซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เป็นสถานที่ฝึกสอนศิลปะการแสดงหนังตะลุง เด็กที่จะเล่นหนังตะลุงได้ดีต้องมีพรสวรรค์ ใจรัก มีสมาธิและความจำดี ด้านเทคนิคการสอนจะเชิดให้เด็กดูเป็นตัวอย่างก่อนและแนะนำวิธีการพากย์ซึ่งต้องมีน้ำเสียงและเนื้อหาที่ถูกใจคนฟัง รู้จักสอดแทรกเหตุการณ์บ้านเมืองสมัยใหม่ลงไปบ้าง

“ครูสอนเล่นหนังตะลุงให้เด็กๆ ในภาคใต้มานาน 40 ปีแล้วเพราะอยากให้เด็กๆ ภาคใต้ช่วยกันรักษาศิลปวัฒนธรรมการแสดงหนังตะลุงไว้ ไม่ให้อยากให้สูญหายไปเพราะเป็นการแสดงที่สืบทอดกันมานาน โดยเกิดมาจากอินเดีย ต่อมาอินโดนีเซียและมาเลเซียรับมาแล้วไทยก็รับมาอีกทอดหนึ่ง เมื่อได้รับคัดเลือกจากสสค.ให้ได้รับทุนครูสอนดีจากสสค. ก็นำมาใช้ซื้ออุปกรณ์การสอนอย่างหนังตะลุงตัวละเกือบ 1,000 และใน 1 คณะต้องใช้ประมาณ 100 ตัว เอามาสอนเด็กๆ”   ครูเคล้าบอกถึงความตั้งใจ

สอดรับ ครูมะรอบี กูโน ครูภูมิปัญญาสอนดิเกร์ฮูลูของโรงเรียนวัดชลธาราสิงเห ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครูสอนดีภาคใต้ บอกว่า ได้รับการถ่ายทอดการเล่นดิเกร์ฮูลูจากพ่อ อยากให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักและช่วยอนุรักษ์ศิลปะการแสดงของภาคใต้แขนงนี้ไว้ จึงนำความรู้ด้านนี้มาสอนเด็กๆ ที่โรงเรียนวัดชลธาราสิงเห ก็สอนมาเป็นเวลาประมาณ 15 ปีแล้ว โดยคนเล่นดิเกร์ฮูลูจะต้องมีใจรักและอดทน คนร้องนำต้องมีน้ำเสียงดี นอกจากนี้ คนร้องนำและสมาชิกในคณะต้องมีลีลาท่าทางประกอบ รวมทั้งการเล่นดนตรีที่มีจังหวะและสนุกสนาน จึงจะสามารถตรึงคนดูได้ เด็กๆ ซ้อมกันมา 3 เดือนก็เล่นได้ดีและเราได้ทุนจากสสค.นำมาซื้ออุปกรณ์การเล่นดิเกร์ฮูลูและเครื่องแต่งกาย

อิรฟาน หะยีมือสา นักเรียนชั้นป.6 โรงเรียนวัดชลธาราสิงเห ซึ่งเป็นคนร้องนำคณะดิเกร์ฮูลูของโรงเรียน เล่าว่า ฝึกร้องมานาน 1 เดือน มีทั้งเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยและภาษามลายูผสมผสานกันไป 

“ผมกับเพื่อนๆ แสดงแล้วคนดูชอบ ก็รู้สึกดีใจ อยากช่วยอนุรักษ์ศิลปะการแสดงดิเกร์ฮูลูให้อยู่ต่อไปนานๆ” อิรฟานบอกอย่างภูมิใจ

ท้ายสุด นายนคร ตังคะพิภพ หัวหน้าโครงการติดตามสนับสนุนทุนครูสอนดีของ สสค. อธิบายว่า  สสค.ได้คัดเลือกครูสอนดีจาก 5 ภาคทั่วประเทศ 530  คน และให้ทุนคนละ 2.5 แสนบาทให้ครูแต่ละคนดำเนินโครงการสอนเด็กด้อยโอกาสตามที่เสนอตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 จนถึงเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งเท่าที่ติดตามดูโดยภาพรวมก็ได้เห็นผลตามเป้าหมายที่วางไว้เพราะครูมีกำลังใจ เมื่อทำความดีแล้วได้รับการส่งเสริมและได้มีการเผยแพร่ผลงาน แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันด้วย ซึ่งในโครงการที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมก็จะช่วยอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป

“ทุนครูสอนดี” นับเป็นหนึ่งโครงการดีๆ ที่ช่วยเติมกำลังใจให้คุณครูทั้งหลาย หากหน่วยงานต่างๆ ช่วยกันจัดโครงการเช่นนี้ออกมาอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการบ่มเพาะสิ่งดีๆ และพัฒนาเด็กไทยให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย ธรรมรัช กิจฉลอง

Shares:
QR Code :
QR Code