ตั้งสติรับมือเครียดภัยน้ำท่วม
ที่มา : สถานีใจ Mind Station
แฟ้มภาพ
ช่วงนี้หลายคนคงได้ประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมในถนนหลายสาย หลายบ้านมีน้ำเอ่อท่วมเข้าตัวบ้าน เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และยังต้องมาเจอกับการจราจรที่หนาแน่น แน่นอนทุกคนมีความเครียดตามมา คนที่มาเจอเหตุการณ์รถติด ก็อาจเครียดกลัวว่าจะไปไม่ทันเวลางาน หลายคนมีภาวะเครียดจากน้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมบ้าน ทรัพย์สินบางส่วนเสียหาย ความเครียดเพิ่มมากขึ้นอีกจากการแชร์พยากรณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าจะมีฝนตกหนักติดต่อกันอีกหลายวัน
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เคยกล่าวถึงสถานการณ์แบบนี้ไว้ว่า สถานการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้สภาพจิตใจประชาชนส่วนใหญ่ อยู่ในสภาวะเครียด ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก มีอาการเครียดจากภาวะน้ำท่วม กลุ่มที่ 2 มีอาการเครียดจากปัญหาผลกระทบต่อมาจากน้ำท่วม และ กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่คาดว่าน้ำกำลังไปถึงพื้นที่ ปฏิกิริยาความเครียดที่เกิด จะพบอารมณ์เบื่อหน่าย ท้อแท้ ไม่มีสมาธิ ร่วมกับอาการทางกายได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ท้ายทอย ใจสั่น นอนไม่หลับ โดยแต่ละคนจะมีระดับความเครียดแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับต้นทุนชีวิตเดิมหรือบุคลิกภาพเดิมเป็นอย่างไร และเป็นคนที่สามารถปรับตัวได้มากน้อยเพียงใด หากเดิมเป็นคนไม่ค่อยเครียดและปรับตัวได้ง่ายก็มักจะไม่เกิดภาวะเครียดรุนแรง รวมทั้ง สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น และการเตรียมตัวในการป้องกัน ที่หากมีการเตรียมตัวป้องกันดี เกิดความเสียหายน้อย ความเครียดก็จะน้อยตามไปด้วย
ข้อแนะนำเพื่อจัดการความเครียดที่เกิดขึ้น สำหรับกลุ่มแรกที่น้ำกำลังท่วม หลายคนอาจเตรียมพร้อมรับมือได้ เนื่องจากมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ความเครียดอาจไม่มาก แนะนำให้ จัดการกับปัญหาร่วมกัน หากิจกรรมทำตามปกติ พูดคุยกับคนใกล้ชิดหรือเพื่อน สวดมนต์ไหว้พระ เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ทำได้ในพื้นที่จำกัด เช่น การยืดเหยียด บริหารร่างกาย ๆ ก้ม ๆ เงย ๆ หรือการเต้นแอโรบิกเป็นต้น รวมทั้ง ปรับเปลี่ยนตัวเองจากผู้รับความช่วยเหลือเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ เอาใจใส่ช่วยเหลือกันและกันในชุมชน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการลดความเครียด และช่วยให้เผชิญภาวะวิกฤตได้ดีขึ้น และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เช่น หากอยู่ในศูนย์อพยพก็ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้อื่น บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญอย่าใช้สุรายาเสพติดมาเป็นทางออกของการจัดการความเครียด สำหรับ กลุ่มที่ 2 ที่เครียดหลังจากผลกระทบของน้ำ จะเห็นความเสียหาย เกิดความเครียดสูง ควรตั้งสติร่วมคิดวางแผนแก้ไขปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน เรียงลำดับก่อนและหลัง เริ่มจากง่ายไปหายาก ที่สำคัญ อย่าหมดกำลังใจ มีสติ ยิ้มสู้กับปัญหา และกลุ่มที่ กำลังรอคอยน้ำท่วม การติดตามข่าวสารในแต่ละวัน ตลอดจนข่าวลือต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดความกลัวและตื่นตระหนก ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลสูงได้ แนะให้ลดการสื่อสารหลายช่องทาง ให้ติดตามสถานการณ์และสอบถามข้อมูลจากแหล่งข่าวสำคัญของท้องถิ่นหรือของทางราชการ อาทิ สายด่วนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1784 สายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 เป็นต้น
อยากให้ทุกคนดูแลตนเองให้ดี อย่าให้ความเครียดส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของคุณ จนไม่มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันเหตุการณ์ที่เกิดจากสภาพอากาศในครั้งนี้ ดังนั้น จึงควรรักษาร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้ถ้ามีความเครียดไม่สบายใจ ขอแนะนำช่องทางการให้คำปรึกษาแก้ปัญหาความเครียด ความทุกข์ใจต่างๆ ได้ที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง