ตะลึง!หญิงไทยเสพยาไอซ์ลดอ้วน
เผยตัวเลขผู้เสพยาไอซ์เพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง เหตุเพราะเชื่อว่าจะช่วยผิวขาวผิวพรรณเต่งตึง และช่วยลดน้ำหนัก
พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ในฐานะประธานการประชุมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 13 “ร่วมแรง ร่วมใจ ฝ่าวิกฤตยาบ้าไอซ์ ด้วยพลังแผ่นดิน” ที่ห้องประชุมอิมแพ็ค คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 9 เมืองทองธานี โดย นพ.วิโรจน์ วีรชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวรายงานสถานการณ์ยาเสพติดด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ที่ติดยาเสพติด
นพ.วิโรจน์กล่าวว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2555 พบข้อมูลที่น่าเป็นห่วงคือมีตัวเลขผู้ที่เสพยาไอซ์เข้ามารับการบำบัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง จากจำนวนผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดทั่วประเทศมีประมาณ 14,355 คน จะมีประมาณร้อยละ 25 หรือประมาณกว่า 3,000 คน ที่เข้ามาบำบัดเพราะติดยาไอซ์
นพ.วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามผู้ที่เข้ามารับการบำบัดพบว่า ขณะนี้เกิดค่านิยมที่ผิดเกี่ยวกับการเสพติดยาไอซ์ โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ผิวขาว ผิวพรรณเต่งตึง และช่วยลดน้ำหนัก ทั้งที่ความจริงแล้วผู้ที่เสพยาไอซ์จะไม่อยากกินอาหารเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะยาไอซ์จะมีฤทธิ์ไปควบคุมการอยากอาหารเพียงชั่วคราว แต่จากนั้นก็จะกลับมาหิวอีก ส่วนเรื่องที่ทำให้ผิวขาวนั้นต้องบอกว่าผิวซีดมากกว่า เพราะคนติดยาไอซ์จะขาดวิตามิน เกลือแร่
ด้าน นพ.อังกูร ภัทรากร รอง ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ กล่าวว่า ผู้ที่มารับการบำบัดที่สถาบันมีถึงร้อยละ 20 ที่ติดยาไอซ์ ร้อยละ 50 ติดยาบ้า ส่วนที่เหลือติดสารเสพติดประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ ผู้ผลิตยาไอซ์เน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้หญิง โดยจะมีการโฆษณาในลักษณะที่ว่ายาไอซ์ไม่ใช่ยาเสพติด สามารถช่วยลดความอ้วน ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง จึงทำให้ผู้หญิงนิยมเสพยาไอซ์กันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนมีฐานะดี มีหน้ามีตาในสังคม เนื่องจากราคายาไอซ์ยังค่อนข้างแพง แต่ขณะนี้มีการแบ่งขายเป็นกรัม จึงเป็นเรื่องน่าห่วงว่าจะมีผู้เสพมากขึ้นเพราะทำให้มีราคาถูกลง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด