ตรุษจีนนี้เฮงๆ ไร้โรค ใส่ใจ “อาหารไหว้เจ้า”
“เฮง เฮง เฮง” กลิ่นอายความคึกคักเริ่มส่งสัญญาณอีกครั้ง ชุดกี่เพ้าสีแดงสด เสียงปะทัดที่ดังกึกก้อง โชว์เชิดสิงโตตระการตา รวมไปถึงกองทัพเป็ดไก่ที่พ่อค้าแม่ขายนำมาแขวนเรียงรายในตลาดสดทั่วประเทศ สิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ของตรุษจีนอันเป็นที่ติดตาตรึงใจมาตลอดหลายทศวรรษ และในวันที่ 10 ก.พ. นี้ ก็จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนเชื้อสายจีนทั่วโลกแล้ว
อาหารไหว้เจ้า ถือเป็นอันดับแรกสุดที่ทุกคนนึกถึงและให้ความสำคัญ เพราะเชื่อว่า การไหว้เทพเจ้าและการไหว้บรรพบุรุษนั้นจะช่วยเสริมบารมีให้แก่ผู้ไหว้ นำมาสู่หลักการเลือกอาหารไหว้เจ้าให้เหมาะกับการเสริมสิริมงคล อาทิ เป็ด จะช่วยเสริมความสงบร่มเย็น, ไก่ จะช่วยเสริมเรื่องลาภยศ, ขนมถ้วยฟู จะช่วยเสริมความเจริญงอกงาม และส้มสีทอง จะช่วยเสริมความเป็นมหามงคล เป็นต้น และอาหารไหว้เจ้าเหล่านี้จะถูกนำมารับประทานกันในครอบครัว เสมือนว่าเป็นการฉลองการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคล
แต่ล่าสุด มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขออกมาว่า มีผู้ป่วย 1 ล้านรายต่อปีที่ป่วยเป็นโรคอาหารเป็นพิษในช่วงเทศกาลตรุษจีน และออกรณรงค์เตือนให้ผู้บริโภคคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและความสะอาดของอาหารไหว้เจ้าเป็นหลัก เนื่องจากในช่วงเทศกาลนั้นจะมีสารเคมีปนเปื้อนมากับอาหารค่อนข้างมาก เพราะมีการเร่ง แต่ง เติม ในกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้จำนวนมากตามความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น วิธีที่ดีและง่ายที่สุดก็คือ การบริโภคอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ปลอดภัย ไม่ก่อโรค จึงขอหยิบยกคำแนะนำดีๆ จากนักโภชนาการแถวหน้าของเมืองไทยโดย อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย ผู้จัดการศูนย์ประสานงานโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย
อ.สง่า ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า อาหารไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีนนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ เรื่องความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง และเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
1. ความปลอดภัยของอาหารจากสารเคมีตกค้าง สารเคมีที่ปนเปื้อนมากับอาหารนั้น อาจจะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคร้ายที่จะตามมาในภายหลัง เช่น โรคท้องร่วงฉับพลัน โรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งวิธีป้องกันปัญหานี้คือ “เพิ่มความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร” ได้แก่
–ใส่ใจในการเลือก เริ่มจากการเลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาด ถูกต้องตามหลักอนามัย ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ควรให้ความสำคัญที่สุด การเลือกซื้อเนื้อสัตว์ อาทิ เป็ด, ไก่ และหมู ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนั้นต้องมั่นใจได้ว่า สด ไม่บูด ไม่เน่า ไม่มีสารเคมีตกค้างโดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง ที่สังเกตได้จากสีของเนื้อสัตว์ต้องไม่ซีดหรือแดงจนผิดปกติ เป็ดและไก่ให้ใช้นิ้วกดลงไปที่บริเวณตัว ถ้ามีรอยบุ๋มลงไปแสดงว่าไม่สด ส่วนการเลือกซื้อปลา ให้เลือกที่เหงือกสีแดงอมชมพู ตาใสไม่ขุ่นเหลือง นอกจากนี้อาจใช้วิธีการสังเกตด้วยการดมกลิ่นซึ่งสามารถบอกได้ว่าเนื้อสัตว์นั้นสดหรือไม่
-ใส่ใจในการล้าง ใช่ว่าวิธีการเลือกอย่างดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ จะทำให้ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง 100% เพราะเชื้อโรคหรือสารเคมีนั้น เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ การทำความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม อย่าง ผักคะน้า กวางตุ้ง และกะหล่ำปลี 3 ผักยอดฮิตที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเรื่องยาฆ่าแมลง ก่อนจะนำมาปรุงควรแช่ด้วยน้ำสะอาดผสมน้ำส้มสายชู เกลือ หรือด่างทับทิม ประมาณ 8-10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบหนึ่ง นอกจากผักแล้วผลไม้ก็เช่นกัน โดยเฉพาะส้ม เพราะพบว่ามีสารเคมีตกค้างที่เปลือกส้มเยอะมาก หากไม่ได้ล้างให้สะอาดเวลาปอกเปลือกส้มนั้น สารเคมีจะติดมือไปพร้อมกับการหยิบส้มเข้าปากนั่นเอง
–ใส่ใจในการปรุง อย่าลืมว่าเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหารนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู, เป็ด, ไก่ ก่อนจะนำมาปรุงต้องเลาะเอาส่วนที่เป็น “มัน” ออกก่อน เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งจะไปเพิ่มคอเลสเตอรอลในร่างกาย จึงขอแนะนำวิธีการปรุงเมนูหมูสามชั้นคั่วเค็ม เริ่มจากให้เลาะเอาส่วนที่เป็นมันออก หั่นบางๆ แล้วนำไปเจียวน้ำมัน เพื่อให้น้ำมันจากเนื้อหมูออกมา เสร็จแล้วก็นำเนื้อหมูไปคั่วเค็ม ซึ่งเป็นเมนูง่ายๆ ที่เป็นการถนอมอาหารที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ หากหลีกเลี่ยงวิธีการปรุงอาหารด้วยการผัดหรือการทอดได้ แล้วหันมาใช้วิธีการนึ่งหรือการต้มจะดีที่สุด เพราะจะช่วยลดปัญหาเรื่องไขมันอันไม่พึงประสงค์จากอาหารลงไปได้เยอะ และที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือก่อนที่จะนำมารับประทานในทุกครั้งควรนำอาหารไปผ่านความร้อน เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคที่ปะปนมากับอากาศ
2. คุณค่าทางโภชนาการของอาหาร การบริโภคอาหารในช่วงตรุษจีนนั้น ต้องคำนึงว่าเราอาจจะได้ไขมันและโปรตีนในปริมาณที่สูงจนเกินไป จึงควรต้อง “กำหนดสัดส่วนของการรับประทานให้สมดุล” ซึ่งต้องได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ใน 1 มื้อ แนะนำว่าควรจะเป็นเมนูต้มจับฉ่าย หมูคั่วเค็ม ข้าว และผลไม้ที่มีใยอาหารในปริมาณที่เหมาะสม อย่าเผลอลืมตัวไปกินอาหารเมนูทอดๆ ผัดๆ หรือพวกขนมหวานในปริมาณมากเด็ดขาด และต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินด้วยไม่เช่นนั้นสิ่งที่รับประทานเข้าไปจะสะสมทำให้กลายเป็นโรคอ้วนได้
ขอเสริมทิ้งท้ายอีกสักนิดเพื่อให้การฉลองตรุษจีนปีนี้ไม่มีเรื่องติดขัดใดๆ ทั้งในเรื่องของการกินและการเที่ยว ก็คือ ควรระมัดระวังเรื่องไฟจากการจุดธูป จุดปะทัด อันจะก่อให้เกิดอัคคีภัยตามมา และระมัดระวังเรื่องการเดินทาง ขับขี่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซินเจี่ยยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ เฮง เฮง เฮง ทุกท่านค่ะ
เรื่องโดย : ฐาปน คำทา Team Content www.thaihealth.or.th