ดูแลจิตใจบุคลากรทางการแพทย์ สู้โควิด-19

ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์


ดูแลจิตใจบุคลากรทางการแพทย์ สู้โควิด-19 thaihealth


แฟ้มภาพ


ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทุกคนล้วนมีความเครียดและความกังวลใจ รวมไปถึงกลุ่มแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีภาระงานต่อสู้กับโควิด-19 ดังนั้นต้องเฝ้าระวังความเครียด ที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจได้


กรมสุขภาพจิต จัดการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2564 สุขภาพจิตดี วิถีชีวิตใหม่ : New Normal Mental Health พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเปิดประชุมว่า บทเรียนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบด้านสุขภาพจิตช่วงปีที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้เรียนรู้ ทบทวน และพัฒนาการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพจิตอย่างครอบคลุม เช่น การเสริมสร้างพลังใจให้คนไทยทุกคนด้วยวัคซีนใจ จัดทีมวิกฤติสุขภาพจิตเยียวยาจิตใจประชาชน บุคลากรสาธารณสุข และกลุ่มกักกัน รวมทั้งสื่อสารสาธารณะให้ประชาชนตระหนัก แต่ไม่ตระหนกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตที่ตัวเลขเพิ่มมากขึ้นแต่ละวัน ส่งผลให้เกิดความเครียดวิตกกังวล อ่อนล้า และสิ้นหวัง โดยข้อมูลจากการสำรวจภาวะสภาพจิตใจของประชาชน เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่าสภาพจิตใจของประชาชนในการระบาดระลอกเดือน เม.ย.2564 ที่เผชิญกับสถานการณ์โควิดพบภาวะเครียดยังไม่ลดลง เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ความเครียดจะค่อยๆลดลงภายใน 2-3 เดือน เมื่อเปรียบเทียบรายพื้นที่พบว่าประชาชน ใน กทม. และปริมณฑลมีความเครียดมากกว่าในต่างจังหวัด ภาวะเครียดที่เกิดขึ้น มีทั้งเครียดกลัวติดเชื้อ เกิดภาวะซึมเศร้าจนถึงขั้นคิดทำร้ายตัวเอง


ทางแก้ปัญหาเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุข และกรมสุขภาพจิตไม่ได้นิ่งนอนใจ นอกจากมีนโยบายลงค้นหาผู้ป่วย ร่วมทำงานกับชุมชน ยังจะเข้าไปดูแลสภาพจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่ซับซ้อน เตรียมแบ่งเป็นโซนทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน เพราะจะทราบดีว่าครอบครัวไหนพื้นที่ไหนป่วย หรือมีคนติดเชื้อรอการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนคิดว่า เราต้องผ่านไปได้ และต้องพยายามร่วมกันหาแนวทางดำเนินชีวิตวิถีใหม่


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ส่วนความเครียดในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ มีการสำรวจสม่ำเสมอ และมีช่องทางจัดการให้กลุ่มบุคลากรที่ทำงานหนักอ่อนล้าได้ระบาย และมีวิธีพูดให้กำลังใจ และคิดว่าชีวิตไม่ได้มีเรื่องงานอย่างเดียว เพราะส่วนใหญ่บุคลากรมุ่งทำงานอย่างเสียสละ ต้องทำงานเป็นผลัด และยังต้องกัก 14 วัน ทำให้บางคนเกิดความเครียด เพราะไม่ได้พบปะครอบครัว ซึ่งความเครียดในบุคลากรที่พบ มีทั้ง


1. เครียดเหนื่อยเพราะงานหนัก และอ่อนล้า ทำไมสถานการณ์ไม่คลี่คลาย


2. เครียดกังวลติดเชื้อ


3. เครียดกังวลเกี่ยวกับครอบครัว ทั้งการไม่ได้พบปะ หรือไปพบปะครอบครัวก็กลัวติดเชื้ออีก

Shares:
QR Code :
QR Code