ช่วยเด็กจมน้ำถูกวิธีช่วงปิดเทอม

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้าออนไลน์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


ช่วยเด็กจมน้ำถูกวิธีช่วงปิดเทอม thaihealth


แฟ้มภาพ


“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย” แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ โดยต้องไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง พร้อมดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และไม่ประกอบกิจกรรมอื่นขณะดูแลเด็ก หมั่นคอยสำรวจและปิดจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำของเด็ก โดยจัดให้มีฝาครอบปิดภาชนะเก็บน้ำ ล้อมรั้วรอบบ่อน้ำ ไม่ให้เด็กเล่นบริเวณริมตลิ่ง หรือเล่นน้ำตามลำพัง


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิต โดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียนระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นช่วงที่มีสถิติเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ ดังนี้ เฝ้าระวังไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ไม่คุ้นเคย แม้เด็กจะว่ายน้ำเป็น เนื่องจากแหล่งน้ำมีความลึก ความชัน และความแรงของกระแสน้ำที่ต่างกัน จึงเสี่ยงต่อการจมน้ำเสียชีวิต โดยเด็กต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นตลอดเวลา และเข้าถึงได้ทันทีในระยะไม่เกินหนึ่งช่วงแขน หากเด็กพลัดตกน้ำจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที


อธิบดีกรม ปภ. กล่าวว่า ไม่ประกอบกิจกรรมอื่นขณะดูแลเด็ก อาทิ คุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความ เล่นเกม เพราะการละสายตาจากเด็กในช่วงเวลาสั้นๆ หากเด็กจมน้ำจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน ป้องกัน สำรวจและปิดจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำของเด็ก โดยเทน้ำทิ้งหลังใช้งาน จัดให้มีฝาครอบปิดภาชนะเก็บน้ำ ล้อมรั้วรอบบ่อน้ำและติดป้ายเตือนอันตราย พร้อมจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยเหลือคนตกน้ำบริเวณใกล้ๆ แหล่งน้ำ สอนเด็กเรียนรู้อันตรายจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ไม่ลงไปเก็บสิ่งของในแหล่งน้ำ ไม่ก้มตัวหรือชะโงกหน้าลงไปในภาชนะเก็บน้ำ เพื่อป้องกันการพลัดตกน้ำทำให้จมน้ำเสียชีวิต กำหนดพื้นที่ในการเล่นของเด็ก โดยไม่ให้เด็กเล่นตามลำพังบริเวณจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำ อาทิ ริมตลิ่ง ชายทะเล น้ำตก บ่อน้ำ อ่างน้ำ ห้องน้ำ เพราะหากพลัดตกน้ำเด็กจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างปลอดภัย


นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ควรให้เด็กใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยทุกครั้งที่โดยสารเรือหรือประกอบกิจกรรมทางน้ำ อาทิ เสื้อชูชีพ โฟม ห่วงยาง เนื่องจากถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยพยุงตัวเด็กให้ลอยตัวในน้ำ เพื่อรอการช่วยเหลือ หรือผู้ใหญ่ควรส่งเสริมให้เด็กมีทักษะการว่ายน้ำและช่วยเหลือตนเองเมื่อพลัดตกน้ำ โดยฝึกให้เด็กลอยตัวในน้ำ ด้วยการใช้มือทั้งสองข้างสลับกันพุ้ยน้ำ หรือใช้ขาถีบน้ำในท่าปั่นจักรยาน เพราะหากพลัดตกน้ำ เด็กจะได้สามารถช่วยเหลือตนเองอย่างปลอดภัย สอนเด็กเรียนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อมีคนพลัดตกน้ำ โดยตะโกนเรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วยเหลือเพื่อนที่ตกน้ำ โยนอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ อาทิ ขวดพลาสติก ถังน้ำ แกลลอนพลาสติก ห่วงชูชีพ พร้อมผูกเชือกให้คนตกน้ำใช้ยึดเกาะพยุงตัวรอการช่วยเหลือหรือลอยตัวเข้าฝั่ง


สำหรับการปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำกรณีเด็กรู้สึกตัว จัดให้เด็กนอนราบ ตะแคงหน้าและเชยคางให้ศีรษะเงยขึ้น เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก เช็ดตัวเด็กให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าและห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย พร้อมนำเด็กส่งสถานพยาบาลในทันที กรณีเด็กไม่รู้สึกตัว ช่วยให้เด็กหายใจ โดยเปิดทางเดินหายใจ เป่าปาก บีบจมูก เป่าลมเข้าทางปากติดต่อกัน และกดนวดหัวใจ 100 ครั้งต่อนาที อย่างต่อเนื่อง หรือนวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก จนเด็กหายใจได้เอง พร้อมนำเด็กส่งสถานพยาบาลโดยเร็วที่สุด 


อย่างไรก็ตามห้ามอุ้มเด็กพาดบ่า กดท้อง ห้อยหัว เขย่าตัวเด็ก เพื่อเอาน้ำออก เพราะจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานขึ้น ส่งผลให้เด็กเสียชีวิตจากการอาเจียนและสำลักน้ำ ทั้งนี้ การจัดสภาพแวดล้อมบ้านให้ปลอดภัย และการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการจมน้ำเสียชีวิตในเด็ก 

Shares:
QR Code :
QR Code