ชู “บางกล่ำ” จ.สงขลา ต้นแบบชมรมคนหัวใจเพชร เสริมอาชีพ พื้นฟูวัฒนธรรม สร้างชีวิตใหม่ให้ครอบครัวเลิกเหล้า

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

ปกข่าว ชู "บางกล่ำ" จ.สงขลา ต้นแบบชมรมคนหัวใจเพชร เสริมอาชีพ พื้นฟูวัฒนธรรม สร้างชีวิตใหม่ให้ครอบครัวเลิกเหล้า

                    สสส. สานพลัง เครือข่ายงดเหล้า หนุนต้นแบบชมรมคนหัวใจเพชร ชู อ.บางกล่ำ จ.สงขลา  “ชุมชนที่มีชีวิต” ชวน ช่วย ชมเชียร์ ชุมชนร่วมงดเหล้าเข้าพรรษา ส่งเสริมอาชีพ ฟื้นฟูวัฒนธรรม สร้างชีวิตใหม่ให้ครอบครัวเลิกเหล้า “สุขกาย สุขใจ สุขเงิน”

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 2 และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1

                    วันที่ 23 ก.ค. 2568 นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 2 และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ติดตามการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนตำบลท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ว่า การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพของประชาชน และสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน สสส. ได้จุดประกาย กระตุ้น สาน และเสริมพลังให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันสร้างสังคมไทยที่มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในมิติของการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งต้องอาศัยแนวทางที่เข้าใจมนุษย์ เคารพวิถีชีวิต และสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้ทุกคนมีทางเลือกที่ดี สำหรับพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของ “ชุมชนที่มีชีวิต” ที่สามารถเปลี่ยนแปลงค่านิยม วัฒนธรรม และพฤติกรรมการดื่ม ผ่านความร่วมมือของภาคีในพื้นที่

                    “ขอชื่นชมกลุ่มพลังหญิงหัวใจเพชร ที่ใช้กลไกเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไม่เพียงจะช่วยลดการพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ยังสร้างโอกาสในการพัฒนาอาชีพของผู้หญิงในพื้นที่ เช่น การแปรรูปขนมพื้นบ้าน ข้าวต้มใบพ้อ พริกแกงใต้ กล้วยฉาบ ซึ่งเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์วัฒนธรรมของถิ่นใต้ได้อย่างงดงาม และขอยกย่องกลุ่มเยาวชน ‘สานศิลป์ถิ่นใต้’ ที่นำศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และดนตรีพื้นบ้าน มาใช้เป็นเครื่องมือสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชน ห่างไกลอบายมุข” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว

นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)

                    นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2546 โดยใช้พลังศาสนาและวัฒนธรรมเป็นแกนกลางในการเปลี่ยนค่านิยมการดื่มของสังคมไทย ปัจจุบันขยายผลไปตลอดทั้งปี และผลักดันสู่ระดับนโยบาย ทั้งในระดับจังหวัดและประเทศ ตั้งแต่ปี 2565-2567 มีภาคีเครือข่ายฯ เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นจาก 2,500 เป็น 3,500 เครือข่ายหรือชุมชน โดยลงนามผ่านโปรแกรม SoBer CHEERs จำนวน 1,010 แห่ง และมีผู้ “บวชใจงดเหล้า” จำนวน 32,495 คนในปีล่าสุด มีผู้เลิกเหล้าตลอดชีวิต หรือ “คนหัวใจเพชร” เพิ่มจาก 600 คนเป็นกว่า 12,598 คน ซึ่งในปี 2567 ผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเลิกเหล้ากว่า 93 ล้านบาท

นายชัยรัตน์ สุขสมคิด นายอำเภอบางกล่ำ จ.สงขลา

                    นายชัยรัตน์ สุขสมคิด นายอำเภอบางกล่ำ จ.สงขลา กล่าวว่า บริบทพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา มีความเป็นชุมชนกึ่งชนบทและกึ่งชุมชนเมือง ส่งผลให้กรณีงานบุญประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ ยังมักมีการดื่มสังสรรค์ และตั้งวงดื่มในช่วงเย็น ทำให้เห็นชัดเจนถึงผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ การขับเคลื่อนของ สสส. ส่งเสริมและรณรงค์ให้เลิกดื่มแอลกอฮอล์ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตามบริบทและวิถีชีวิตของชาวชุมชนพื้นที่ภาคใต้ส่งผลให้เกิดครอบครัวเลิกเหล้า ชุมชนหันมาเห็นความสำคัญของการเลิกเหล้ามากขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาที่เป็นโมเดลสำคัญต่อการสร้างสังคมสุขภาวะยั่งยืน

                    กล่าวว่า จ.สงขลามีโรงกลั่นและโรงแช่สุราที่ได้รับอนุญาตมากที่สุดในภาคใต้ 72 แห่ง ปัจจุบันมีการขับเคลื่อน “ชุมชนคนสู้เหล้า” ใช้แนวทางผสานการงดเหล้าเข้ากับการสร้างอาชีพ ฟื้นฟูวัฒนธรรม รณรงค์ผ่านกิจกรรมหลากหลาย โดยเฉพาะกิจกรรม “ชวน ช่วย ชมเชียร์” โดยชมรมคนหัวใจเพชร และกลุ่มพลังหญิงหัวใจเพชร และกลุ่มเยาวชน “สานศิลป์ถิ่นใต้” ที่ร่วมกันขับเคลื่อนชุมชนปลอดเหล้า ควบคู่กับการสร้างอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีการลงนาม MOU ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและวัฒนธรรม จัดงานบุญปลอดเหล้า พัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ และขยายต้นแบบ CBTx เพื่อฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติด พร้อมเตรียมจัดเวทีเชิดชู “คนหัวใจหิน เหล็ก เพชร” หลังออกพรรษา

นางจวน อินทรีย์ คนหัวใจเพชรบ้านควนเหนือ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา

                    นางจวน อินทรีย์ คนหัวใจเพชรบ้านควนเหนือ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา กล่าวว่า ตนและสามีเคยติดเหล้าไม่ว่าจะงานบุญหรือเทศกาลต่างๆ ในหมู่บ้านจะร่วมจ่ายเงิน 500 บาท เพื่อให้ดื่มได้ตลอดงาน ตั้งวงดื่ม 5-6 คน วิถีของคนในหมู่บ้านคือ มางานต้องเลี้ยงเหล้า ทำให้ติดเหล้า เลิกไม่ได้ เคยหยุดแต่ลงแดงและอาละวาด จนปี 2564 ผู้ใหญ่บ้านมาชวนร่วมกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา ด้วยความเกรงใจจึงเข้าร่วมพองดได้ 3 เดือน หลังจากนั้นก็กลับไปดื่มหนักอีก จนเกิดจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกเหล้าอย่างถาวร เมื่อปี 2565 ได้ดื่มเหล้าอย่างหนักไม่ได้พักผ่อน และขับจักรยานยนต์ไปทำงานกรีดยางกลางดึกทันที กรีดยางวันละ 10-12 ไร่ ขากลับหลับในทำให้เกิดอุบัติเหตุมีแผลบนใบหน้าและฟันหัก 1-2 ซี่ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หลังจากนั้นมาก็เลยเลิกดื่มแบบเด็ดขาดใครชวนดื่มก็จะปฏิเสธ

 

Shares:
QR Code :
QR Code