ชาวเหนือค่าฝุ่นพุ่งสูง ควรสวมหน้ากาก N95
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
หมอเตือนชาวเหนือทุกคนสวมหน้ากากN95 ชี้เหตุค่าฝุ่นPM 2.5 พุ่งสูง กางทฤษฎีต้นกำเนิดฝุ่นมีผลกระทบต่อสุขภาพต่างกัน ซึ่ง เผาป่าคาร์บอนมอนน็อคไซด์สูง อยู่ใกล้ทำมึน งง สับสน อยู่ไกล แสบตา ระคายเคือง
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สาเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งมาจากการเผาป่า แตกต่างจากปัญหาฝุ่นละออง ที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัดก่อนหน้านี้ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ อุตสาหกรรมเป็นหลักนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการแยกว่าแต่ละสาเหตุของการเกิดฝุ่นมีผลกระทบต่อสุขภาพแตกต่างกันอย่างไร แต่จะเป็นข้อมูลรวมของการเกิดฝุ่น PM 2.5 รวมกันเลยว่ามีผลต่อสุขภาพเหมือนกัน แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ทางทฤษฎีสาเหตุของการเกิดฝุ่นที่แตกต่างกันย่อมมีพิษต่อสุขภาพแตกต่างกัน ถ้าเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ เช่น เบนซิน อาจจะมีความกังวลว่ามีโอกาสเกิดมะเร็งในอนาคตหรือไม่
รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวต่อว่า กรณีเผาไม้ เผาฟืนนั้น หากเป็นพื้นที่เผาจริงๆ นอกจากฝุ่นละอองแล้วยังมีสารอื่นๆ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ อาจจะทำให้ขาดออกซิเจน มีโอกาสทำให้เกิดภาวะมึน งง เวียนศีรษะได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ใกล้หรือไกลพื้นที่นั้น เมื่ออยู่ไกลออกมาฝุ่น ควันเหล่านั้นจะมีผลกระทบทำให้เกิดการระคายเคือง แสบตา ไอ มีเสมหะเยอะ ทำให้คนไข้ที่เป็นโรคปอดอยู่แล้วมีอาการกำเริบมากขึ้น ที่ภาคเหนือในช่วงที่มีฝุ่นควันเกิดขึ้น จะพบคนไข้หอบ ถุงลมโป่งพอง อาการกำเริบเฉียบพลันเยอะขึ้นชัดเจน คนไข้ที่ปอดไม่ดีก็มีโอกาสที่ปอดจะเสื่อมลงและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ส่วนผลระยะยาวมีโอกาสจะเป็นมะเร็งหรือไม่นั้นก็ต้องเทียบเคียงอย่างอื่นด้วย เช่น ควันบุหรี่มือสองเองก็เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งชัดเจนเช่นกัน สำหรับการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ไม่ว่าเกิดจากอะไรก็ให้ใช้หน้ากากอนามัย N95 ซึ่งในค่าฝุ่นที่ภาคเหนือหลายจังหวัดสูงขนาดนี้คิดว่าทุกคนที่ออกไปภายนอกบ้านก็ต้องใส่ทั้งหมด ต่อให้สภาพปอดจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ทางที่ดีควรเลี่ยงการออกไปนอกบ้านดีกว่า โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว และคนสูงอายุ
ด้าน นพ.อดุลย์ บัณฑุกุล รอง ผอ.ด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม รพ.นพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการเปิดคลินิกมลพิษ มาได้กว่า 2 เดือน มีผู้ป่วยเข้ามาที่คลินิก 200 กว่าราย ในจำนวนนี้เป็นโรคที่เกิดจากมลพิษ 7 ราย เป็นโรคทางเดินหายใจ เนื่องจากทั้ง 7 รายเมื่อไปสัมผัสอากาศที่มีมลพิษจะมีผลต่อทางเดินหายใจร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกรายอาการไม่รุนแรง และได้มีการรักษาและติดตามต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมหารือกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเกี่ยวกับแนวทางการตั้งคลินิกดังกล่าวในพื้นที่