“ชาญ เชยเกตุ”

คนต้นแบบเลิกเหล้าภาคแรงงาน

 

 “ชาญ เชยเกตุ”

 

            การเสพติดน้ำเมาเป็นเรื่องแสนง่าย และเมื่อติดแล้วการจะเลิกเป็นสิ่งที่ที่ยากแสนยาก ต้องใช้พลังใจที่เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ซึ่งน้อยคนที่จะข้ามพ้นหุบเหวแห่งอบายมุขนี้ได้ แต่เมื่อทำสำเร็จทุกคนจะรู้สึกอย่างเดียวกันคือ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ “ชาญ เชยเกตุ” หรือ “ต้น” พนักงานบริการงานอู่ ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อู่เรือมารีน แอ็คมี ไทย จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอีกหนึ่งผู้โชคดีที่มีชีวิตใหม่หลังจากเลิกเหล้า ด้วยขบวนการกลุ่ม ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอุตสาหกรรม และภาคเอกชนจากบริษัทต่างๆ

 

ชายหนุ่มวัย 38 ปี คนนี้ เล่าเรื่องราวแต่หนหลังที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขน้ำเมาให้ฟังว่า

 

            “ผมเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 14 ปี ตั้งแต่ตอนเรียนที่ดื่มก็เพราะความคึกคะนองกับเพื่อนๆ เท่านั้น พออายุ 15 ปี เรียนจบ ม.3 ผมก็เริ่มทำงานทำอาชีพประมง ต้องออกทะเลไปงมหอยให้กุ้งกุลาดำกินเป็นอาหาร ซึ่งต้องใช้ประดาน้ำลงไปเอาหอยขึ้นมา เป็นอาชีพที่เงินดีมากเลยทีเดียวสำหรับผม จึงทำให้ผมใช้เงินเก่ง เที่ยวเก่ง จนติดยาเสพติดทุกอย่าง ดื่มเหล้าทุกวัน จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไป โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลย ตอนนั้นอายุ 27 ปี

 

            บางครั้งไปทำงานออกทะเล ผมก็เอาเหล้าไปดื่มด้วย เคยถึงขั้นดื่มจนทำงานไม่ไหว ต้องนอนหลับอยู่ใต้น้ำนานประมาณ 30-45 นาที เลยทีเดียว บางวันผมดื่มอยู่ที่บ้านคนเดียวจนหลับไป แล้วพอตื่นขึ้นมาตอนตี 3 ผมก็จะนั่งดื่มต่อคนเดียวจนเช้า จนร้านค้าเปิด และพอเหล้าหมดผมก็จะออกไปเซ็นเอาเหล้ามาดื่มใหม่ ดื่มจนหลับ พอตื่นมาก็ดื่มใหม่ ทำอย่างนี้เป็นประจำ บางวันตื่นขึ้นมา ผมจำอะไรไม่ได้เลยก็มี

 

            ที่ผมต้องดื่มเหล้าทุกวัน ก็เพราะดื่มแล้วทำให้ผมไม่คิดมาก ทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้ รายจ่ายค่าเหล้าแต่ละเดือน ไม่ใช่น้อยเลยครับ ประมาณ 3,000-4,000 บาท ทุกเดือน ผมทำงานมา 20 กว่าปี แต่ไม่เคยมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้เลย สิ่งเลวร้ายสำหรับผมมากที่สุดในชีวิต และทำให้ผมอยากหยุดพฤติกรรมในการดื่มเหล้า คือ ผมดื่มเหล้าทุกวันได้ ไปดื่มตามร้านอาหารได้ หมดเงินครั้งละเป็นพันๆ ได้ แต่เวลาลูกมาหา ผมกลับไม่มีเงินที่จะซื้อขนมให้ลูกกินเลย จุดนี้ทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจและอยากเลิกดื่มเหล้าให้ได้

 

            เมื่อเกิดแรงบันดาลใจ ก้าวต่อไปที่จะเลิกจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และจากการที่ดื่มหนักมานาน ทำให้ “ต้น”ได้ประจักษ์ความจริงในหลายเรื่องเกี่ยวกับน้ำเมา ที่เผาอนาคต และเปาสติ ผู้คนมานักต่อนักแล้ว

 

            “การดื่มเหล้าไม่ได้ทำให้ลืมทุกอย่างได้ อาจลืมได้ก็แค่ข้ามคืนเท่านั้นครับ แล้วการดื่มก็ไม่ได้ทำให้เรามีเงินเพิ่มมากขึ้น แต่กลับจะลดลงไปทุกที ดื่มแล้วก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขที่แท้จริงได้ มันเป็นความสุขของคน คนเดียว เป็นความสุขแค่เพียงข้ามวันเท่านั้น  แต่เป็นความทุกข์ของคนใกล้ชิดอีกหลายคน”

 

แล้วเขาก็สามารถเอาชนะใจตนเองได้สำเร็จ

 

            “ผมเลิกดื่มเหล้า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 หลังกลับจากสัมมนากับเครือข่ายองค์กรงดเหล้าฯ ที่จังหวัดพิษณุโลก ทางบริษัทฯ ก็ได้ส่งผมเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดและให้ยามารับประทาน ประมาณ 1 เดือน ก็ทำให้พฤติกรรมในการดื่มเหล้าหรืออยากที่จะดื่มไม่มีอีกเลย ปัจจุบันชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น ไม่มีหนี้สิน สุขภาพแข็งแรง แม่ของผมดีใจ และภูมิใจมากที่ผมสามารถหยุดดื่มเหล้าได้ ตอนนี้ผมมีเงินที่จะให้ลูกสาว และผมก็เลิกเหล้าได้ตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวนนี้ ตอนนี้ที่ทำงานของผมมีชมรม ลด ละ เลิกเล้าแล้วครับ ชื่อชมรม “ต้นแบบ ลด ละ เลิกเหล้า” ซึ่งมาจากชื่อของผมเอง คือ ต้น เป็นต้นแบบที่เลิกเหล้าได้ครับ

 

 

 

 

 

 

ที่มา: เครือข่ายองค์กรงดเหล้า 

 

update : 06-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

 

 

           

 

Shares:
QR Code :
QR Code