จับตา“ไข่เก๊”วายร้ายทำลายสมอง

 

            เพิ่งผ่านวิกฤต “นมผสมเมลามีน” มาไม่เท่าไร ล่าสุดเจ้าแห่งแดนมังกรอย่างประเทศจีน ก็ทำเอาคนไทยต้องสะเทือนรอบสอง เมื่อภาพของไข่ปลอมได้ถูกส่งต่อผ่านทางโลกไซเบอร์ข้ามประเทศจากจีนเข้ามาสู่ประเทศไทย จนต้องเฝ้าระวังการนำเข้าของ “ไข่ปลอม” กันจ้าละหวั่น

 

            ไม่เพียงแต่ภาพของไข่ปลอมเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องร้องเฝ้าระวังยิ่งกว่า เป็นเพราะ “มัน” ไม่ได้มาแค่ภาพ แต่กลับมาพร้อมกรรมวิธีการผลิต และวัตถุดิบในการทำอย่างครบครัน หากใครมีโอกาสได้ดูภาพดังกล่าว คงต้องอุทานออกมาว่า “แหม…ทำไปได้” เรียกได้ว่า ปลอมกันได้ ปลอมกันดี ปลอมกันเข้าไป กระทั่งอาหารการกินก็ยังอุตริปลอมกันได้ลงคอ

 

            สำหรับเรื่องราวของไข่ปลอมนั้นได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีข่าวแพร่ระบาดในอินเตอร์เน็ทว่า ทางการจีนเตือนเมื่อเดือน ก.ค. ให้ระวังการบริโภคไข่ปลอม หลังจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของจีนรายงานข่าวข้างต้น ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า มีการจำหน่ายไข่ปลอมหรือไข่เทียม อย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยไม่สนความปลอดภัยของผู้บริโภค ทำเนียนจนแยกไม่ออกอันไหน “ไข่จริง” อันไหน “ไข่ปลอม” ทั้งยังใช้ต้ม ทอด ปรุงอาหารกินได้ตามปกติ!!!

 

 

 

ขณะเดียวกันบริษัทด้านเทคโนโลยีบางแห่งถึงกับเคยเปิดคอร์สสอนวิธีทำไข่ปลอมมาแล้ว!! โดยคิดค่าสอนคอร์สละ 150 – 800 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 600 – 3,200 บาท นอกจากนี้ยังทำเก๋ด้วยการผลิตเป็นวีซีดีวิธีการทำออกจำหน่ายอีกด้วย

 

             นอกจากนี้สาธารณสุขของจีน ยังออกมาระบุอีกว่า ในไข่ปลอมที่ถูกทำขึ้นนั้น ไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่เลย แต่กลับเต็มไปด้วยสารเคมีหลากหลายชนิด ทั้งสารส้ม โซเดียม อัลจิเนต เจลาติน แคลเซียมคลอไรด์ และโซเดียมเบนโซเอท ในขณะที่ไข่แดงถูกย้อมสีด้วยเกลือ และเอสเตอร์ของกรดทาร์ทาริก เอซิดซึ่งจะทำให้เครื่องดื่มมีฟอง ใส่ในขนมฟู รวมทั้งใช้ในอุตสาหกรรมถ่ายรูป และฟอกหนังด้วย ส่วนเปลือกของไข่ปลอมก็ยังทำมาจากสารแคลเซียมคาร์บอเนต เรียกได้ว่า ในไข่ปลอม 1 ฟองนั้นอุดมไปด้วยสารพิษที่มีอันตรายต่อร่างกายอย่างมากมายทีเดียว

 

โดย รศ.ฟัง หยิงซิง ประจำคณะเคมี แห่งฮ่องกง ยูนิเวอร์ซิตี้ ออกมาระบุว่า สารโซเดียม อัลจิเนตและเจลาติน ถูกใช้เป็นสารทำแข็งและรักษามาตรฐานในอาหาร แคลเซียมคลอไรด์ เป็นสารทำระเหย หรือทำให้แห้ง ขณะที่อะลัม หรือสารส้ม ใช้เพื่อทำให้น้ำตกตะกอนหรือเพื่อให้น้ำใสสะอาด ขณะที่สารเจือปนบางอย่างในสารเคมีเหล่านี้ อาจเป็นอันตรายต่อส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้อีกด้วย

 

 

 

            เกี่ยวกับอันตรายดังกล่าว นายโล วิง-ล๊ก แพทย์ชาวจีน ได้ออกมาเปิดเผยว่า แม้ว่าส่วนผสมในไข่ปลอมที่ไม่ละลาย หรือย่อยสลาย เช่น แคลเซียม ร่างกายจะสามารถขจัดได้โดยการขับถ่าย แต่หากบริโภคในปริมาณมาก ก็จะส่งผลให้การทำงานของระบบจิตประสาทช้าลงได้!!

 

            มาดูที่ประเทศไทยกันบ้าง หลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าวแพร่ออกมา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมาบอกถึงกรณีที่มีข่าวไข่ไก่ปลอมทำจากสารเคมีอันตรายจากประเทศจีน ลักลอบวางจำหน่ายในท้องตลาด เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สธ. ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบการนำเข้าไข่ไก่ปลอมจากต่างประเทศและในท้องตลาด และขอความร่วมมือกรมศุลกากรในการเฝ้าระวังการนำเข้าไข่ไก่ปลอม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชนไทย หากพบสิ่งของต้องสงสัยว่าจะเป็นไข่ไก่ปลอม ให้ส่งให้เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาประจำด่านศุลกากร เข้าตรวจสอบก่อนดำเนินพิธีการศุลกากรด้วย และจากการสุ่มตรวจสอบไข่ไก่ในท้องตลาดเบื้องต้น ยังไม่พบมีการจำหน่ายไข่ไก่ปลอมในประเทศไทยแต่อย่างใด

 

 

 

          ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา บอกว่า ได้สั่งการให้ด่านอาหารและยาตามแนวพรมแดนทั่วประเทศ เฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าไข่ไก่ปลอม อย่างใกล้ชิด โดยจะมีการสุ่มเก็บตัวอย่างไข่ไก่ส่งตรวจวิเคราะห์ หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด จัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารปลอม มีโทษจำคุก 6 เดือน–10 ปี และปรับ 5,000–100,000 บาท 

 

          “ไข่ไก่ปลอมนั้น จะไม่มีสารอาหารใดๆ ที่เป็นประโยชน์ทางโภชนาการต่อสุขภาพ และขณะนี้ประเทศไทยไม่มีการนำเข้าไข่ไก่จากจีนแต่อย่างใด มีนำเข้าเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม อย.จะเก็บตัวอย่างไข่ไก่ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นส่งตรวจวิเคราะห์ด้วย ส่วนวิธีการสังเกตนั้น เมื่อเขย่าไข่ไก่ปลอมจะได้ยินเสียงขลุกขลิก เหมือนมีช่องว่างของน้ำในไข่ แต่ถ้าเป็นไข่ไก่ของแท้ เมื่อเขย่าจะรู้สึกแน่น นอกจากนี้ไข่ปลอม มักมีเปลือกไข่ขาวใสกว่าปกติ และไม่มีกลิ่นคาวเหมือนไข่ของจริง เมื่อปรุงสุกแล้วไข่แดงจะสีสดกว่าปกติ ทั้งนี้ อย. จะตรวจสอบเฝ้าระวังในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้” เลขาธิการ อย. กล่าว

 

 

 

วันนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้นำวิธีการเลือกซื้อไข่ที่สด สะอาด มาฝากกันค่ะ…หากต้องการไข่ที่สด สะอาด ควรพิจารณาจากเปลือกไข่ที่ไม่สกปรก เมื่อส่องไข่ดูกับแสงแดด จะพบว่ามีสีแดงเล็กน้อยและถ้าเห็นไข่แดงมีลักษณะกระจายตัว ไม่เป็นลักษณะกลม และมีจุดเงาดำ หรือสีดำทึบทั้งฟอง ไม่โปร่งแสง ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือสามารถพิจารณาง่ายๆ จากวันหมดอายุที่ปรากฏบนหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ของไข่ก็ได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไข่ที่ดีไปรับประทานแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องของ “ไข่จริง-ไข่ปลอม” ยังเป็นกระแสที่ประเทศไทยยังต้องจับตามองกันต่อไป เพื่อไม่ให้ไข่ปลอมไหลทะลักเข้ามาทำร้ายสุขภาพคนไทยได้…

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update 24-07-52