งาน ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019 ครั้งที่ 8
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบ สสส.
“รมช.สาธิต” เปิดงาน "ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019" ครั้งที่ 8 โชว์ฟิตวิ่งมินิมาราธอน 10 กม. ร่วมนักวิ่งกว่า 6 พันคน พร้อมประกาศยกระดับมาตรฐานงานวิ่ง สู่ต้นแบบงานวิ่งเพื่อสุขภาพ ยึดหลัก ‘safe, fair, fun’ พัฒนาการจัดงาน-นักวิ่งควบคู่กัน ชวนเริ่มต้นดีชีวิตดี “เดินวิ่ง” เป็นวิถีชีวิต
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 ที่บริเวณสวนหลวงพระราม 8 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมเดินวิ่ง "ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019" (Thaihealth Day Run 2019) ครั้งที่ 8 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในวาระครบรอบ 18 ปี สสส. โดย ดร.สาธิต ร่วมวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากรรมการ สสส., ดร.แดเนียล เคอร์เตซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก, นพ. ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส., นายประสาร จิรชัยสกุล ประธานมูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ร่วมกิจรรมพร้อมกับนักวิ่งเข้ากว่า 6,000 คน
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.และสมาพันธ์และสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย ถือเป็นผู้ริเริ่มการวางมาตรฐานการจัดงานวิ่ง โดยได้จัดทำคู่มือ 2 ฉบับ คือ 1.คู่มือการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน เพื่อเป็นคำแนะนำให้การจัดการแข่งขันวิ่งประเภทถนนมีมาตรฐานสูงในระดับที่สามารถจัดเกรด หรือติดป้ายรับรองของ IAAF กติกาและคำแนะนำที่เป็นสากลพึงปฎิบัติ เพื่อให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัยและเกิดความเท่าเทียมกัน และ2.ข้อปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน ที่นำมาใช้กับการจัดงานวิ่งในประเทศไทย โดยเน้นการจัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นไกด์ไลน์สำหรับผู้จัดงานวิ่ง โดยยึดหลัก ‘Safe, Fair, Fun’ ซึ่งได้มีการนำไปใช้กับการจัดงานที่สสส.สนับสนุน เพื่อเป็นต้นแบบของงานวิ่งเพื่อสุขภาพ เกิดการจัดงานวิ่งที่มีมาตรฐานขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้นักวิ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งที่ปลอดภัยมีการเตรียมพร้อมก่อนวิ่งศึกษาและเคารพกฎกติกามารยาทการวิ่งรวมถึงเข้าใจหลักการกินที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังวิ่ง และให้การวิ่งเพื่อสุขภาพ เป็นชีวิตดีๆ ที่เริ่มที่ตัวเราเอง และวิ่งจนเป็นวิถีชีวิต
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ภาพรวมของประเทศ สสส.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผลักดันให้เกิดแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายชาติ พ.ศ.2561-2573 ฉบับที่ 1 มีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกาย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย และ 3. การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หากคนไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ส่งเสริมให้คนไทยในแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ซึ่งผลการสำรวจกิจกรรมทางกายประชากรไทย พ.ศ. 2562 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปัจจุบันประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพออยู่ร้อยละ 74.6ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ ถือว่าการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มวัยได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น