ครอบครัวอุปถัมภ์ ผู้เติมเต็มความรัก…ในยามที่ขาด

ความอบอุ่นเพียงใดในโลกนี้คงเทียบไม่ได้กับไออุ่นอ้อมกอดของแม่ที่มีให้กับลูก แม้ว่าจะไม่ได้มาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง แต่เพื่อจะได้ร่วมกันให้โอกาสแก่เด็กๆ ได้มีเวลาแห่งความงดงามของชีวิต ได้รับความรัก เติบโตขึ้นเป็นคนดี ช่วยเหลือตัวเองได้ และสร้างสรรค์ประโยชน์สุขต่อสังคมสืบไปนั้น ส่วนหนึ่งเกิดได้จาก “ครอบครัวอุปถัมภ์”

เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการธนาคารจิตอาสา ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดกิจกรรมเปิดโลกอาสา ครั้งที่ 8 v are family ณ ห้องประชุมใหญ่ บ้านเซเวียร์ ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแรงบันดาลใจจากกิจกรรมอาสาที่เกี่ยวกับครอบครัว

คุณแม่สมพร สุขสมจิตต์ แม่อาสาวัย 61 ปี โครงการครอบครัวอุปถัมภ์สหทัยมูลนิธิ กล่าวว่ากว่า21 ปีที่รับหน้าที่เป็นแม่อาสา เกิดจากความรักและสงสารเด็กกำพร้าที่เขาเกิดมาแล้วถูกทอดทิ้ง พ่อแม่ไม่ต้องการ แล้วเด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นมาได้อย่างไรถ้าไม่มีคนดูแล ขาดความรักซึ่งควรจะได้จากผู้ให้กำเนิด ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่เคยมีลูกมาก่อนก็ตาม แต่ก็ตัดสินใจมาเป็นคุณแม่อาสาในโครงการครอบครัวอุปถัมภ์เพราะอยากรู้ว่าการมีลูกมันจะลำบากแค่ไหนกัน

โครงการครอบครัวอุปถัมภ์เป็นการจัดหาครอบครัวทดแทนชั่วคราวไว้รองรับเด็กที่ครอบครัวมิอาจทำหน้าที่ได้ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและป้องกันไม่ให้เด็กเหล่านี้ต้องเข้ารับการเลี้ยงดูในสถานสงเคราะห์ซึ่งมีสภาพที่ไม่เอื้อต่อพัฒนาการเด็กในทุกด้าน ระหว่างที่เด็กอยู่ในครอบครัวอุปถัมภ์ มูลนิธิฯ จะติดตามดูแลอย่างสม่ำเสมอ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเลี้ยงดูเด็ก

ปัจจุบันรับเลี้ยงเด็กมาแล้วทั้งสิ้น 18 คน โดยเด็กที่เคยเลี้ยงมีอายุน้อยที่สุดก็คือ 14 วัน จนถึง 2-3 เดือน แล้วแต่ว่าเด็กจะโดนแม่ทิ้งช่วงอายุเท่าไหร่ ซึ่งการเลี้ยงดูเด็กๆ ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก เพราะทางสหทัยมูลนิธิเป็นคนออกค่าใช้จ่าย รวมถึงมีการฝึกอบรมการเลี้ยงดูลูกให้กับแม่อาสา

“เรารู้ว่าพวกเขาถูกพ่อแม่ทิ้งมา เราก็ต้องรักเขาเหมือนลูกของเรา ให้ความรักความอบอุ่นเหมือนแม่คนหนึ่ง รวมทั้งมีคนในครอบครัวมาช่วยดูแล เขาก็จะได้รับความรักอย่างทั่วถึง ในเมื่อไม่มีใครก็มีครอบครัวเป็นแม่ เป็นญาติให้แก่เขา”

เด็กที่รับเลี้ยง เราสามารถเลือกเพศได้ แต่ไม่สามารถเลือกสภาพเด็กได้ เด็กบางคนที่เลี้ยงก็มีความพิการ ความบกพร่องทางร่างกาย ทางสมอง หรือสุขภาพไม่ดี ต้องได้รับการดูแลอย่างพิเศษ ครั้งหนึ่งเคยรับน้องไออุ่น น้องมีอาการเลือดคั่งในสมอง และนอนรักษาในโรงพยาบาลนานถึง 6 สัปดาห์ และเลือดคั่งทำให้สายตาน้องพิการ ทางมูลนิธิฯ จึงติดต่อให้มาช่วยเลี้ยงดู เราก็ยินดีรับ เพราะเป็นคุณแม่อาสาสมัคร เราก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ช่วงที่ดูแลน้องไออุ่นต้องพาน้องไปโรงพยาบาลทุกวัน พาไปกายภาพ ว่ายน้ำ ฝึกพูด เลี้ยงตั้งแต่น้องอายุ 4 เดือน ดูแลเขาแบบนี้ถึงประมาณ 3 ปี จึงมีคนมาขอน้องไป

การดูแลลูก เราใช้การดูแลด้วยหัวใจ เลี้ยงเพราะใจรัก ด้วยความสงสารที่เขากำพร้า หากใจไม่รักเราคงไม่ทำมานานถึง 21 ปี เมื่อลูกที่เราเฝ้าเลี้ยงดูมีคนรับไปอุปการะก็ร้องไห้เสียใจทุกครั้ง แต่พอทางครอบครัวใหม่ส่งข่าว ส่งรูปมาให้ ก็รู้สึกดีใจ เมื่อเขามีคนให้การเลี้ยงดู ให้การศึกษาที่ดี เขาจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอนาคตและดูแลตัวเองได้ แค่นั้นเราก็ดีใจและมีความสุขแล้ว

แม้ว่าจะได้ค่าตอบแทนในการเลี้ยงดูเด็กเดือนละ 2,000 บาทต่อคน แต่แม่สมพรไม่คิดว่าเงินที่ได้เป็นเงินเดือนของตัวเอง แต่เงินเหล่านี้ก็นำมาใช้ดูแลพวกเขา เป็นการช่วยเหลือเด็กๆ ในรูปแบบที่เราจะช่วยได้ ซึ่งเราตั้งใจจะรับเลี้ยงดูต่อไปจนกว่าสหทัยฯ เขาจะไม่ให้ทำ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์