การประชุมวิชาการและประกาศเจตนารมณ์ “จับมือร่วมใจ รับภัยโลกร้อน”

การประชุมวิชาการและประกาศเจตนารมณ์ “จับมือร่วมใจ รับภัยโลกร้อน”

การประชุมวิชาการและประกาศเจตนารมณ์ จับมือร่วมใจ รับภัยโลกร้อน

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ครบ 90 ปี

หลักการและเหตุผล

การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจากสภาวะที่โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น (global warning) ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้าน โดย intergovernmental panel on climate change (ipcc) กล่าวว่า หากอุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลงในอัตรานี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่างๆ เช่น ความรุนแรงขึ้นของพายุต่างๆ ปริมาณและรูปแบบการตกของฝน เกิดภัยแล้งและอุทกภัย ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดเปลี่ยนแปลง และอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะเอื้อต่อการระบาดของโรคบางชนิด สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความตระหนักและตื่นตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาคมทั่วโลก ในการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้

สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของสภากาชาดไทยที่มีหน้าที่หลักช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างครบวงจร ทั้งการเตรียมพร้อมก่อนเกิดภัย การจัดการในภาวะฉุกเฉินขณะเกิดภัยและการฟื้นฟูบูรณะสู่ภาวะปกติ ร่วมกับ องค์กรภาคีต่างๆ ได้แก่ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (undp) ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์ วิจัย และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ร่วมมือกันริเริ่มการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพในการปรับตัวของชุมชนอ่อนแอตามแนวชายฝั่งที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ (strengthening the capacity of vulnerable coastal communities to address the risk of climate change and extreme weather events) เพื่อให้ชุมชนมีการเตรียมพร้อม ป้องกัน และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สุขภาพอนามัย การจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทั่วไป เป็นต้น

ในการนี้ จึงได้จัดการประชุมวิชาการและประกาศเจตนารมณ์ จับมือร่วมใจ รับภัยโลกร้อน เพื่อบูรณาการเตรียมพร้อม ป้องกัน และลดผลกระทบจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงสู่ระดับจังหวัดและประเทศในด้านแผนและนโยบาย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน รวมถึงเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยถือโอกาสอันเป็นมงคล ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา 90 ปี สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ในเดือนธันวาคม 2553 จัดการประชุมดังกล่าว

วัตถุประสงค์

1. เพื่อบูรณาการการเตรียมพร้อม ป้องกันและลดผลกระทบจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงสู่ระดับจังหวัดและประเทศในด้านแผนและนโยบาย

2. เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

3. เพื่อเพิ่มความสามารถในเชิงเทคนิคให้กับชุมชนเพื่อรับมือต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

4. เพื่อเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการการปรับตัวและรับมือต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแก่องค์กรต่างๆ และชุมชน

5. เป็นเวทีในการเผยแพร่บทเรียนและประสบการณ์ของชุมชนต้นแบบและโครงการต่างๆ ในการเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. เกิดการบูรณาการเตรียมพร้อมและลดผลกระทบจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยมีการร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภากาชาดไทย สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

2. ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน ในพื้นที่ที่สภาพภูมิอากาศมีความคล้ายคลึงกัน ได้ร่วมกันริเริ่มดำเนินโครงการเพื่อการรับมือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

3. ผู้ร่วมการประชุมได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจากวิทยากรผู้ทรงความรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากชุมชนต้นแบบ

4. ผู้ร่วมประชุมสามารถประชาสัมพันธ์การปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสู่สาธารณชนทั่วไปได้

ระยะเวลาในการดำเนินงาน

ระยะเวลาในการเตรียมการดำเนินการ ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2553

ระยะเวลาในการประชุมวิชาการ 2 วัน ระหว่างวันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2553

สถานที่จัดประชุม

ศูนย์ประชุมองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ

ผู้ร่วมประชุม

ผู้ร่วมประชุมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 คน จาก

1. เหล่ากาชาดจังหวัด จำนวน 75 จังหวัด และบุคลากรสภากาชาดไทย

2. บุคลากรจากสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ

3. ผู้แทนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด

4. ผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด 75 จังหวัด

5. ผู้แทนจากองค์กรพัฒนาเอกชน

6. ผู้แทนจากชุมชนต้นแบบฯ ปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัย

7. นักวิชาการผู้มีความรู้ดานผลกระทบและสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

งบประมาณ

6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)

โดยได้รับการสนับสนุนจากสภากาชาดไทย สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และผู้สนับสนุนจากองค์กรต่างๆ

การติดตามและประเมินผลโครงการ

แบบประเมินผลการประชุมวิชาการและประกาศเจตนารมณ์ จับมือร่วมใจ รับภัยโลกร้อน

ที่มา : สภากาชาดไทย

update : 04-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย นพรัตน์ นริสรานนท์

Shares:
QR Code :
QR Code