การบ้านผู้ใหญ่กระตุ้นจินตนาการให้เด็ก
เด็กและเยาวชน ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศ เพราะเด็กในวันนี้จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ดังนั้นการพัฒนาเด็กและเยาวชน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักถึงควันหลงจากวันเด็กแห่งชาติ หลังความสนุกสนานของเด็กๆ สิ่งที่ละเลยไม่ได้ คือ ผู้ใหญ่มาร่วมสำรวจและเตรียมรับสถานการณ์เพื่อพัฒนาเด็กในทิศทางที่สร้างสรรค์
วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก บอกว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กที่จะถึงนี้แม้ว่าเรากำลังจะทำให้เด็กมีความสุขแต่สิ่งที่ต้องตระหนักและเตรียมการให้ดีคือ เตรียมรับสถานการณ์ปัญหาที่จะเกิดกับเด็กๆ ด้วย เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นและปัญหาการใช้ความรุนแรง ตัวแปรสำคัญอยู่ที่การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทำกิจกรรมที่หลากหลายอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการปรับพลังขับดันภายในไปสู่การแสดงออกที่สร้างสรรค์
ตัวแปรที่จะปกป้องคุ้มครองเด็ก คือ 1.องค์กรท้องถิ่น เช่น อบต.เทศบาล และ อบจ. ต้องกำหนดงานด้านการดูแลและพัฒนาเด็กเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในการทำงานพื้นที่พร้อมกำหนดงบประมาณเข้าดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะพื้นที่ย่อมรับรู้และเข้าใจว่าเด็กๆ ในพื้นที่ของตนประสบปัญหาอะไรและต้องการการส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องใด
ส่วนประเด็นที่สอง คือ สภาเด็ก และเยาวชนทั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบลต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายและส่วนพื้นที่อย่างจริงจังให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลเด็กและเยาวชน ทั้งการเข้าร่วมวางแผนมาตรการและร่วมลงมือปฏิบัติ เพราะสภาเด็กและเยาวชนนี้คือกลไกที่เกิดจากเด็กและเยาวชน เข้าใจความคิด เข้าใจความต้องการ และปัญหาของกลุ่มเป้าหมายตัวเองได้ดีกว่าผู้ใหญ่
การขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์ของเด็ก ถือเป็นมาตรการรับมือปัญหาที่สำคัญเพราะจินตนาการสำคัญไม่แตกต่างจากความรู้ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ดร.สุภาพร เทพยสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรี อาจารย์พิเศษคณะศิลปนิเทศ มหาวิทยาลัยเกษตร กล่าวใน “การประชุมคณะทำงานพัฒนาวิชาการเพื่อสนับสนุนคณะกรรมการประสานนโยบายการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย” จัดโดยมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ และ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า ในทุกๆ ปี การจัดงานวันเด็ก ของแต่ละหน่วยงานต่างๆ มักจะมีกิจกรรมการแสดงบนเวที เพื่อส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออก แสดงความสมารถ ความคิดสร้างสรรค์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการประกวด ร้องเพลง ประกวดเต้นประกอบจังหวะ เพื่อหาผู้ชนะเลิศ
การจัดกิจกรรมบนเวทีในวันเด็ก อาจจะมุ่งเน้นเพียงการแสดงออก เช่น ให้เด็กแสดงออกจากการเลียนแบบนักร้อง นักแสดงเจ้าของเพลง เช่นหากใครเลียนแบบได้เก่งกว่า ดีกว่า ก็จะเป็นผู้ชนะ แต่การมุ่งมั่นดังกล่าวกลับส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการบวนการฝึกให้เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของเด็กอย่างน่าเสียดายเมื่อเทียบกับการให้เด็กได้เต้นรำเคลื่อนไหวแสดงท่าทางตามจินตนาการของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้มากกว่า
ดร.สุภาพร กล่าวว่า ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสำคัญต่อเด็กมาก เพราะจะส่งผลต่อเด็กในด้านต่างๆ อาทิเช่น มีความคล่องตัวในการคิด เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ได้รวดเร็ว ฉับไว สามารถคิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มีความคิดยืดหยุ่น ฉลาด หากเด็กมีความคิดริเริ่มแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครก็จะส่งผลให้เด็กมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตได้มากขึ้นซึ่งเครื่องมือในการพัฒนากระบวนการฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กที่ง่ายและดีที่สุด ก็คือ การใช้ดนตรีเป็นสื่อ เพราะเป็นกิจกรรมที่สนุกเด็กจะชอบแต่หากไม่ได้รับการส่งเสริมที่ถูกต้องก็จะทำให้เด็กเสียโอกาสในการพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของตนเอง
“การประกวดแข่งขันแพ้ชนะเป็นเรื่องที่ควรระวังเพราะเด็กจะเรียนรู้เรื่องของความสำเร็จและจะติดอยู่ในใจไปตลอด เคยเห็นการประกวดร้องเพลิงเด็กเล็ก มีเด็กคนหนึ่งร้องดี ท่าทางดีมาก น่าจะชนะ แต่เด็กคนนั้นร้องเพลง ฉันรักผัวเขา แสดงออกเหมือนรักสามีคนอื่นจริงๆ แต่งตัวสวย ใส่เสื้อสายเดี่ยวซึ่งไม่สร้างสรรค์ ไม่น่าดู เหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของเด็ก แต่ผู้ใหญ่เสียเอง ควรเลือกเพลง หรือกิจกรรมที่เข้ากับวัยเด็กด้วย” ดร.สุภาพรกล่าว
นอกจากนี้ ดร.สุภาพร กล่าวว่า พ่อแม่และคุณครูควรใช้ดนตรีเป็นสื่อการสอน เพื่อช่วยเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านต่างๆ เช่น ช่วยจัดกิจกรรมทางดนตรีให้เด็ก เน้นให้เด็กใช้จินตนาการความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของตนเองอย่างเต็มที่ เช่น ให้ร้องเพลง เต้นรำ เล่นดนตรีอย่างเป็นอิสระตามแต่ใจของเด็ก ขณะที่ครูควรทบทวนหลักสูตรดนตรีเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กตามวัยมากกว่าเน้นให้เด็กทุกคนเล่นดนตรีให้เก่งเพื่อการประกวดแข่งขัน ไม่เน้นสอนให้เด็กเก่งแล้วไปประกวด เต้น เล่น ร้อง เพื่อเป็นสะพานเป้าหมายให้เด็กเป็นดารา เพราะกิจกรรมเหล่านี้ล้วนทำลายการพัฒนากระบวนการฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็ก
“ผู้ใหญ่ควรส่งเสริมให้เด้กได้แสดงออก โดยไม่ปิดกั้น โดยแสดงท่าทางต่างๆ ประกอบดนตรี แต่ไม่ใช่การให้เด็กเต้นตาม ออกคำสั่งให้น้อยที่สุด เช่น ให้เด็กทำ จับกลุ่มรวมตัวกันเป็นรูปจักรยาน รูปตัวอักษร โดยให้เด็กคิดเอง ค้นพบเอง และกล่าวชมเชยเด็กอย่างจริงใจ เพราะถ้าเด้กได้คิดเอง ลองผิดลองถูกบ้างก็จะมีความเชื่อมั่นและภูมิใจมากขึ้นที่สำคัญไม่ควรแสดงอาการไม่พอใจหรือขบขัน หากเด็กคิดท่าทางสร้างสรรค์แปลกๆ แต่ใช้วิธีแนะนำหรือตักเตือนหากเห็นว่าเด็กแสดงท่าทางไม่สุภาพ หรือหยาบคายแทน” ดร.สุภาพรกล่าว
ควันหลงวันเด็กจึงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องทบทวนวิธีคิดในการดูแลเลี้ยงดูปล่อยเด็กให้สร้างสรรค์ตามจินตนาการอย่างอิสระไม่ปิดกั้น เพื่อให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจินตนาการสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Update:10-01-54
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่