‘ไทย’ อุบัติเหตุบนถนนอันดับ 2 ของโลก
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ประเทศไทย มีอัตราการตายจากการบาดเจ็บทางถนนของอยู่ที่ 2 ของโลก เน้นการบังคับใช้กฏหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิไทยโรดส์ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ได้เปิดเผยรายงานรายละเอียดสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนของไทยปี 2557 เทียบกับปี 2555
ดร.ศาตราวุฒิ พลบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจราจรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า ผลการศึกษาปี 2557 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ 21,429 ราย ลดลงจาก ปี 2555 ที่มี 23,601 ราย เท่ากับเสียชีวิต 32.90 รายต่อแสนประชากร ทุก 24 นาที จะมีคนเสียชีวิตบนท้องถนนอย่างน้อย 1 คน จำนวนผู้ประสบอุบัติเหตุ 3 ใน 4 หรือ 76 % (857,572 คน) ใช้รถ จยย. รองลงมาเป็นจักรยาน 8% (99,298 คน) และคนเดินเท้า
จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (13.60 รายต่อแสนประชากร) ตามด้วย สตูลยะลา ปัตตานี นนทบุรี แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู สมุทรสงคราม อัตราการเสียชีวิตสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ระยอง (74.73 ต่อแสนประชากร) ปราจีนบุรี ชลบุรีประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี เพชรบุรี ชุมพร ฉะเชิงเทรา ตาก และพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แบ่งการกระทำผิดกฎจราจรไล่เรียงตั้งแต่จังหวัดที่ทำผิดมากไปน้อยสุด 10 อันดับ โดยจับกุมปรับ และดำเนินคดี ได้แก่ เมาแล้วขับมากที่สุด 10 อันดับแรก คิดเป็น 99.3 รายต่อแสนประชากร ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ เลย ระยอง นครนายก ขอนแก่น อุดรธานี นนทบุรี และนครสวรรค์
ขับรถเร็ว คิดเป็น 670.77 รายต่อแสนประชากร นนทบุรี ชุมพร สมุทรปราการ ลำปาง ขอนแก่น ชลบุรี ชัยภูมิ สระบุรี ลำพูนและประจวบคีรีขันธ์ ไม่สวมหมวกนิรภัย คิดเป็น 2,515.01 รายต่อแสนประชากร เพชรบุรี ภูเก็ต ชลบุรี อ่างทอง สระบุรี พะเยาสุรินทร์ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา และชัยภูมิ จังหวัดที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่คิดเป็น 129.3 รายต่อแสนประชากร ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี นครนายก สระบุรี สุรินทร์ นนทบุรี สมุทรปราการ ชัยภูมิ สมุทรสาคร และมุกดาหาร ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยคิดเป็น 2,515 ต่อแสนประชากร สุรินทร์ พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ ตราด ชลบุรี เลย ชัยภูมิ สุพรรณบุรี ลำพูน และน่าน ขับรถย้อนศร ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาครพระนคร ศรีอยุธยา นนทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปทุมธานี สมุทรสงคราม นครนายก และภูเก็ต ฝ่าไฟสัญญาณจราจร คิดเป็น 374.43 รายต่อแสนประชากร นนทบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ เลย สุรินทร์ น่าน นครนายก และเชียงใหม่
ดร.ศาตราวุฒิ กล่าวต่อว่า จังหวัดระยองมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุด เนื่องจากเป็นเมืองอุตสาหกรรมมีประชาชนแฝงอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เช่นเดียวกับปราจีนบุรี รองลงมาเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ชลบุรี เพชรบุรี นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกต 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี สระบุรี และประจวบคีรีขันธ์ มีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในลำดับต้น เพราะเป็นทางผ่าน ไปภาคใต้ ส่วนจังหวัดที่ขับรถย้อนศรมากสุดมีปัจจัยเรื่องการตัดถนนใหม่
นพ.แท้จริง ศิริพานิช ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีนโยบายชัดเจนในการทำงานลดอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้จะมีข้อกฏหมายบังคับใช้แต่ผู้มีอำนาจไม่ปฏิบัติเช่นเดียวกับการบังคับใช้กฏหมายให้สวมหมวกกันน็อก จะช่วยลดการตายจากการขับขี่ลงได้ 5,000 คนต่อปี หากทำอย่างจริงจังเพราะขณะนี้มีตัวเลขของผู้เสียชีวิตดังกล่าวปีละ 16,000 คน เรื่องนี้ต้องอาศัยอำนาจผู้นำประเทศมาช่วยผลักดัน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการตายจากการบาดเจ็บทางถนนของประเทศไทยอยู่ที่ 2 ของโลก รองจากประเทศลิเบีย มีอัตราการตาย 36.2 คนต่อประชากรแสนคน ซึ่งการแถลงรายละเอียดครั้งนี้ ได้รวบรวมข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงมหาดไทยและบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยทางรถ ครอบคลุมถึงรายละเอียดสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ โดยจะนำรายงานชิ้นนี้เสนอต่อองค์การอนามัยโลก เพื่อนำไปสู่การทำงานเรื่องทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน 2554-2563 โดยประเทศไทยเข้าร่วมขับเคลื่อนการทำงานเรื่องกับองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกส่วนที่รายงานล่าช้าไม่เป็นปัจจุบันคือปี 2559 หรือ 2558 เนื่องจากการรวบรวมข้อมูลต้องใช้เวลาในการสังเคราะห์และวิเคราะห์