โหมรณรงค์เปิดไฟหน้ารถกลางวัน “ลดตาย”

ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์ 


ภาพประกอบเว็บไซต์เดลินิวส์ 


โหมรณรงค์เปิดไฟหน้ารถกลางวัน


ภาคีเครือข่ายเร่งรณรงค์เปิดไฟหน้ารถกลางวัน  "ลดตาย" เน้น 7วันอันตราย 11-17 เม.ย. ขอความร่วมมือผู้ผลิตรถยนต์ติดดีอาร์แอล


นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ(สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่าวันที่ 4 เม.ย. นี้เครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุจะเข้าพบพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ ในแคมเปญ ขับรถมีน้ำใจรักษาวินัยจราจร อาทิ สงกรานต์นี้ง่วงไม่ขับ ไม่แว้นไม่นั่งท้ายกระบะไม่โป้ไม่เปลือยและเปิดไฟหน้ารถ ในส่วนของเครือข่ายฯ ปีนี้จะเน้นมาตรการ ”เปิดไฟหน้ารถ”ที่สภาวิศวกรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงคมนาคม สสส. และเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เริ่มรณรงค์มาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาด้วยการขอความร่วมมือประชาชนเปิดไฟหน้ารถช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เน้น 7วันอันตราย 11-17 เม.ย. และขอความร่วมมือผู้ผลิตรถยนต์ติดดีอาร์แอล( DRL:Daytime Running Light) หรือหลอดไฟที่เปิดใช้ตอนกลางวัน รวมทั้งผลักดันให้รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎหมายบังคับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยทุกคันติดหลอดดีอาร์แอลตั้งแต่ปี 61


นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่าขณะนี้มีรถใหม่จากค่ายยุโรป อาทิเบนซ์ วอลโว รวมทั้งรถใหญ่จากค่ายญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้าคัมรี่ และ ฮอนด้าแอคคอร์ดติดดีอาร์แอลแล้ว คิดเป็นสัดส่วน 5% จากปริมาณรถยนต์ทั่วประเทศ15 ล้านคัน หรือ750,000 คันเมื่อรวมกับผลการรณรงค์ที่ผ่านมาประชาชนติดดีอาร์แอลแล้ว 20 %หรือราว 3 ล้านคัน สงกรานต์นี้จะรณรงค์ให้ติดหลอดดีอาร์แอลหรือเปิดไฟหน้ารถให้ได้50% โดยติดตั้งได้ที่ร้านประดับยนต์ ในราคาหลักร้อยบาทหากติดพ่วงกับอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ ไฟเลี้ยวเพียงแค่หลักพันเท่านั้น หรือหากยังไม่ติดก็แค่เปิดไฟหน้ารถซึ่งไม่ส่งผลต่อหลอดไฟหรือการใช้งานของแบตเตอรี่


นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า การเปิดไฟหน้ารถจะช่วยลดอุบัติเหตุจากการพุ่งชนรถที่สวนทางและจุดตัดต่างๆอาทิ จุดกลับรถและแยกไฟแดงได้ถึง 30% เนื่องจากช่วยเพิ่มระยะการมองเห็นจาก670 เมตรเป็น 1,400 เมตร ขณะที่50% ของอุบัติเหตุกลางวันเกิดจากคนขับมองไม่เห็นรถคันอื่นปัจจุบันประเทศที่พัฒนาแล้วมีกฎหมายบังคับให้เปิดไฟหน้ารถรวม 9 ประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ สวีเดน นอรว์เดนมาร์ค ส่วนประเทศไทยบังคับรถจยย.ไปแล้วเมื่อปี47


ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 4 เม.ย.นี้ กระทรวงฯได้เสนอแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ในที่ประชุมครม.พิจารณาใช้มาตรการ777 โดย 7 วันแรกก่อนสงกรานต์ เป็นการเตรียมพร้อม โดยเฉพาะถนนต่างๆซึ่งกรมทางหลวง(ทล.) ได้วิเคราะห์จุดเสี่ยงอันตรายไว้141 จุดทั่วประเทศ ได้ให้ ทล.กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตั้งหน่วยบริการทั้ง 141 จุด เตือนประชาชนระมัดระวังการขับขี่นอกจากนี้ให้หยุดการก่อสร้างคืนผิวถนน ช่วง7 วันช่วงสงกรานต์จะจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้บริการตามจุดแวะพัก รวมทั้งรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยทล. จะเปิดช่องพิเศษช่วงขาออก 22 จุด เพื่อเร่งระบายรถ ส่วน 7 วันหลังสงกรานต์จะดูแลการเดินทางสำหรับผู้ที่ตกค้างและประเมินผลวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาปีต่อไป ทั้งนี้กระทรวงฯเน้นรณรงค์ 4เรื่องหลักได้แก่ 1.ขับช้าๆ ไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. 2. เปิดไฟหน้ารถเวลากลางวัน 3.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย และ 4.ต้องสวมหมวกนิรภัย โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมป้ายไวนิลรณรงค์มาตรการเพื่อติดตั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ก่อน 7 วันตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.นี้

Shares:
QR Code :
QR Code