โสด-สูงวัย ให้สตรอง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ คม-ชัด-ลึก
นักวิชาการแนะเทคนิคเตรียมตัวโสด สูงวัย เงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องออกสู่โลกกว้าง ทำงานจิตอาสา เติมเต็มใจให้ตนเองรู้สึกมีคุณค่า
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุและในปี 2564 จะกลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Complete aged Society) มีประชากรสูงวัยมากกว่า 20 % อีกทั้ง สาวไทยนิยมอยู่เป็นโสดมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีวิธีการเตรียมพร้อมในการที่จะใช้ชีวิตช่วงสูงวัย
สถาบันคิดใหม่และกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จึงได้จัดเสวนา เรื่อง “อยู่อย่างโสด สูงวัย หัวใจสตรอง เทรนด์ใหม่มาแรง” โดยผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา นักวิชาการด้านสังคมผู้สูงวัย กล่าวว่า แนวโน้มสังคมไทยที่มีคนโสดและผู้สูงอายุมากขึ้น จึงมีความเสี่ยงที่คนไทยจะใช้ชีวิตตามลำพังในยามสูงอายุ ซึ่งการจะใช้ชีวิตแบบโสดและสูงวัยให้อยู่รอดได้ จำเป็นต้องเตรียมพร้อม 2 ส่วน คือ กายภาพ ต้องมีคนคอยดูแล แม้จะไม่มีคู่ครองแต่ไม่ได้อยู่คนเดียว มีเพื่อนบ้านหรือบุคคลภาครัฐให้พึ่งพอได้ก็ไม่มีปัญหา และจิตใจ การมีคู่ชีวิตจะทำให้ผู้สูงอายุตระหนักรู้ในคุณค่าของตนเองที่มีต่ออีกฝ่าย สิ่งนี้ไม่มีใครที่จะมีเติมเต็มแทนได้
ผศ.ดร.วีรณัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับคนโสดสูงวัยหรือสูงวัยแต่ไม่โสด แม้จะเก็บเงินได้เพียงพอจริงเพื่อใช้ยามสูงวัย แต่ก็ยังอยู่ไม่ได้ เพราะขาดการเติมเต็มด้านจิตใจ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด จะต้องทำให้รู้สึกว่ามีคุณค่าอยู่เสมอ อาจจะทำได้โดยการเป็นจิตอาสา ออกไปทำกิจกรรมต่างๆเพื่อสังคม เกิดแรงบันดาลใจที่จะมีชีวิตอยู่ในทุกๆวัน หากผู้สูงอายุไม่มีสิ่งนี้ ทุกอย่างก็จะพังและพาลงเหวหมด เพราะจิตใจจะหดหู่ ว้าเหว่า เหงา เศร้าซึม จนไม่อยากทำอะไรต่อไป นอกจากนี้ หลักประกันในชีวิตยามสูงวัย คือ ต้องสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต ซึ่งไม่ใช่เงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเตรียมพร้อมให้มีความมั่นคงในปัจจัย 4 ตั้งแต่ยังหนุ่ม อย่ารอให้ 60 ปีแล้วค่อยทำ จะไม่ทัน
“แม้จะเก็บเงินได้เพียงพอจริงเพื่อใช้ยามสูงวัย แต่ก็ยังอยู่ไม่ได้ เพราะจิตใจของเราเอง แม้จะมีเงินมากก็จะมีความรู้สึกตะขิดตะขวงในใจอยู่เสมอว่าจะพอจริงหรือ ค่าเงินจะเป็นอย่างไร ซึ่งเงินตราไม่เคยพอเพียงกับมนุษย์ ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ จึงมีการศึกษาเจาะลึกลงไปถึงสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการจริงๆ พบว่า เงินมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่มีเงินเพียงอย่างเดียวแล้วจะอยู่ได้ สิ่งสำคัญ ต้องทำให้ตัวเองมีคุณค่าด้วย” ผศ.ดร.วีรณัฐกล่าว