โพลเผย เด็กไทยเรียนหนักสุดในโลก

/data/content/23959/cms/e_cegiloqrwx24.jpg

          สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิพัฒนาไท แถลงข่าว “เด็กและเยาวชนอยากเปลี่ยนแปลงอะไรจากระบบการศึกษาไทย” เผยโพล เด็กไทยเรียนหนักที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ ถึง  58.7%

          เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิพัฒนาไท แถลงข่าว “เด็กและเยาวชนอยากเปลี่ยนแปลงอะไรจากระบบการศึกษาไทย” โดยนายปรีชา เมธาวัสภาคย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวว่า เอแบคโพลล์สำรวจเด็กและเยาวชนอายุ 14-18 ปี จำนวน 4,255 คน ในพื้นที่ กทม. สมุทรปราการ จันทบุรี ลพบุรี นครปฐม เพชรบูรณ์ สุโขทัย เชียงใหม่ ยโสธร ชัยภูมิ อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา นครศรีธรรมราช ชุมพร สุรินทร์

          พบว่า 58.9% เห็นว่า โอกาสและมาตรฐานการศึกษาไทยยังไม่เท่าเทียมกัน สอดคล้องกับความเห็นที่ว่า เด็กไทยเรียนหนักที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ คิดเป็น 58.7% ขณะที่เด็กและเยาวชนมากกว่า 2 ใน 3 อยากให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนในปัจจุบัน เนื่องจากหลักสูตรเน้นทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติจริง ซึ่งพบว่าต้องเรียนหนักวันละ 7-8 คาบ ขณะที่ความสุขต่อรูปแบบการศึกษาในปัจจุบัน มีคะแนนเฉลี่ยเพียง 5.78 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน

          นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รองประธานคณะกรรมการ สสค. กล่าวว่า ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมสะท้อนว่าเยาวชนในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษายังขาดทักษะในการทำงาน โดยเฉพาะการคิดคำนวณ การใช้อุปกรณ์ไอที การทำงานเป็นทีม การปรับตัว การแก้ไขปัญหา และภาษาอังกฤษ ส่งผลให้เกิดภาวะตำแหน่งงานว่าง แต่กลับมีคนตกงานล้นประเทศ ถ้าหากจะพัฒนาให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักนี้ การลงทุนเพื่อการศึกษาให้เด็กและเยาวชนเพียงแค่ 13 ล้านคน คงไม่เพียงพอ หากแต่ต้องหมายรวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถของแรงงานประชากรด้วย

 

 

          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code