โพลล์เผยเด็กกรุงสร้างทุกข์ให้แม่ หนุนคืนความสุข
เปิดโพลล์สำรวจพฤติกรรมวัยรุ่นกรุงที่สร้างความทุกข์ให้แม่ พบสุดแย่ทั้งเสพยา-ติดพนัน-หนีเรียน-ดื่มสุรา ชี้เด็ก 15% ไม่เคยกอดแม่เลยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระบุวันแม่ปีนี้เด็กกว่า 30% อยากคืนความสุขให้แม่ด้วยการตั้งใจเรียน และเลิกดื่มเหล้า ขณะที่ คุณแม่ที่มีลูก 3 คนติดยาแถมสามีติดเหล้า ชี้ชีวิตเหมือนตกนรก แต่ใช้ความรักประคับประคองจนครอบครัวผ่านมรสุมได้
6 ส.ค.57 ที่โรงแรมเอบีน่าเฮาส์ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557 ภายใต้สโลแกน“คืนความสุขให้แม่”ในงานมีการแสดงละครสะท้อนพฤติกรรมลูกที่เคยทำให้แม่ทุกข์ และการแสดงความรักของลูกด้วยการล้างเท้าให้แม่ จากนั้นมีการการเสวนา“บทเรียนชีวิตแม่ ลูก ความเจ็บปวดที่ต้องฝ่าข้าม” ทั้งนี้มีกลุ่มเยาวชน และผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 100 คน
นางสาวจรีย์ ศรีสวัสดิ์ ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมของลูกที่ทำให้แม่เป็นทุกข์ จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเยาวชนอายุ18-30ปี จำนวน1,187ราย สำรวจในพื้นที่ กทม.ได้แก่ เซ็นทรัลลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หัวลำโพง เดอะมอลล์บางกะปิ ตะวันนา สยาม มาบุญครอง ปิ่นเกล้า หัวหมาก ฝั่งธนบุรี ระหว่างวันที่ 21-31ก.ค.2557 พบว่า พฤติกรรมลูกที่ทำให้แม่มีความทุกข์และเสียใจมากที่สุด คือ ติดเสพยาเสพติด14.1% รองลงมา ติดการพนัน14% หนีเรียน12.6% ดื่มสุรา12.3% และทำร่ายร่างกายแม่11.1% เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยทำอะไรให้แม่ทุกข์ใจเสียใจบ้าง กลุ่มตัวอย่าง26.9% เคยเถียงแม่ รองลงมา ประชดประชัน25% ดื่มสุรา13.6% ไม่มีเวลาให้แม่9.3%
“กลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าปัจจัยกระตุ้นและมีส่วนทำให้มีปัญหากับแม่บ่อยที่สุด คือ การดื่มสุรา28% รองลงมา21.1% เที่ยวกลางคืน/ติดของแบรนด์เนม/มือถือราคาแพง ขณะเดียวกันเมื่อถามถึง สิ่งที่เคยทำให้แม่มีความสุขมากที่สุด คือ กอดแม่ 20.6% ตั้งใจเรียนให้จบ16.8% นอกนั้นเป็นการซื้อของให้แม่ พาแม่เที่ยว และดูแลแม่ตอนป่วย เป็นต้น” นางสาวจรีย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง 65.5% ระบุว่าในรอบ3 ปีเคยกอดแม่บ้าง นานๆ ครั้งรองลงมา19.5% กอดเป็นประจำ และอีก15%ตอบว่าไม่เคยกอดแม่เลย ส่วนสาเหตุที่ไม่กอดแม่เลยเพราะอายเขิน และไม่มีเวลาเจอแม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องในวันแม่ปีนี้กลุ่มตัวอย่างตั้งใจจะทำเพื่อ“คืนความสุขให้แม่”คือ การตั้งใจเรียน34.7% ลดละเลิกสุราและอบายมุข 24.9% แบ่งเบาภาระงานบ้าน19.7% และมีเวลาให้แม่มากขึ้น 19.5%
ด้าน นางน้ำทิพย์ แป้นประเสริฐ อายุ 54 ปี อาชีพค้าขายในชุมชนวัดโพธิ์เรียง เขตบางกอกน้อย กทม. กล่าวว่า ตนมีลูกชายทั้งหมดสามคน สมัยที่ยังเรียนมัธยมต้นทั้งสามคนก็เริ่มเกเร หนีเรียน หันไปสูบบุหรี่และติดยาเสพติด เคยเสพมากสุด10 เม็ดต่อวัน ไม่นอนไม่กินข้าวติดกัน 5 วันก็เคย ช่วงหนักๆเคยขโมยเงินทอง เอาของในร้านไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อยา เราเคยถึงขนาดใช้วิธีล่ามโซ่ลูกไม่ให้ออกไปเสพยาอีกแต่ก็ไม่ได้ผล ต่อมาลูกก็กลายเป็นทั้งผู้เสพและผู้ขาย ส่วนสามีก็ชอบสังสรรค์ดื่มสุราหนัก ทำให้ครอบครัวมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ช่วงนั้นตนต้องทำงานหนักมากเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
“สามีดื่มเหล้าจัด ส่วนลูกทั้งสามคนก็ติดยา ชาวบ้านเริ่มรู้ข่าว และถูกนินทาหนาหู จนเข้าใจผิดกล่าวหาว่าสามีเป็นคนค้ายา เนื่องจากสามีเป็นถึงประธานชุมชนทำงานณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ส่วนเราก็เป็นกรรมการชุมชน สุดท้ายต้องลาออกทั้งคู่และหยุดค้าขาย เพื่อมาดูแลและทำทุกทางบำบัดลูกให้เลิกเสพยาแต่ก็ยังเลิกไม่ได้ ยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ท้อและไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความรักความเข้าใจทำให้ครอบครัวผ่านมรสุมครั้งใหญ่มาได้ ลูกทั้งสามคนเลิกยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด เราเหมือนได้ชีวิตใหม่ ได้ลูกกลับมา ส่วนของขวัญวันแม่ปีนี้ไม่ขออะไรมากแค่ให้ลูกเป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว” นางน้ำทิพย์ กล่าว
ด้าน นางสาวน้ำแข็ง (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี สะท้อนเรื่องราวชีวิตที่เคยทำให้แม่เป็นทุกข์ ว่า ช่วงวัยเรียนอายุ15 ปี สมัยนั้นติดเพื่อนและชอบโดดเรียน ขโมยเงินแม่ไปเที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เมื่อพ่อแม่ทราบเรื่องก็ถูกตักเตือนและทะเลาะกับแม่รุนแรง ด้วยความที่ไม่ต้องการอยู่ในกรอบและอยากมีอิสระจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอยู่กับแฟน หลังจากนั้นก็หาเงินด้วยยาเสพติด เป็นทั้งผู้ขายและผู้เสพ จนถูกจับเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปราณี ได้3เดือน เมื่อพ้นโทษก็กลับมาทำซ้ำอีก ชีวิตช่วงนั้นเริ่มรับรู้ถึงความลำบาก ชีวิตแย่ลงเรื่อยๆ และไม่นานตนเกิดตั้งครรภ์ แฟนก็เริ่มเปลี่ยนไป โมโหร้ายและชอบใช้ความรุนแรง ทุบตีและมีปากเสียงกันเป็นประจำ เมื่อทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเลิกและกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งแม่และครอบครัวก็ยังยกโทษให้อภัยทุกอย่าง
“เคยตัดสินใจคิดสั้นกินยาฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่เพื่อนบ้านพาส่งโรงพยาบาลไว้ได้ทัน และแม่ทำใจยอมรับเมื่อทราบว่าเรากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งจุดนี้ทำให้เราคิดได้ว่าไม่มีความรักไหนที่ยิ่งใหญ่เท่ารักของแม่ แม่พร้อมให้อภัยลูกได้เสมอ เมื่อทุกข์ใจเสียใจสิ่งที่นึกถึงที่สุดคือแม่ แม่ไม่เคยทำร้ายทุบตี มีแต่เราซะอีกที่ทำให้แม่เสียใจผิดหวัง สร้างทุกข์สร้างหนี้สินให้แม่นับครั้งไม่ถ้วน หลังจากนี้ขอสัญญากับแม่ว่าจะเป็นคนดี ไม่ทำให้แม่เสียใจ จะตั้งใจดูแลพ่อแม่และน้องชาย3คนให้ดีที่สุด เพื่อชดเชยในสิ่งที่เคยทำให้ท่านทุกข์มากกว่า10ปี และเมื่อมีโอกาสก็จะไปรับลูกชายมาอยู่ด้วยกัน” นางสาวน้ำแข็ง กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต