โพลชี้โชว์เฟอร์ตีนผีทำอุบัติเหตุพุ่ง

ยอดคนตายวันละ 30 ศพ

 

 

 

          โพลระบุ ปชช. เกินครึ่งไม่รู้อุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ชี้ 70% รับสภาพ เสี่ยงตกเป็นเหยื่อบาดเจ็บ ล้มตาย ขณะที่ 93.8% เชื่อโชว์เฟอร์รถโดยสารตีนผี ต้นเหตุสำคัญทำยอดตายพุ่ง จี้รัฐบาลคลอด 3 มาตรการ เมาไม่ขับ – ลดความเร็ว – สวมหมวกกันน็อค ป้องกัน วอนตำรวจเข้มบังคับใช้กฎหมาย

 

          นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ศวปถ. ร่วมกับ ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความเห็นประชาชน อายุ 18-75 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ “1 ปีวาระแห่งชาติว่าด้วยอุบัติเหตุทางถนน” จำนวน 1,204 ตัวอย่าง ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. – 7 ต.ค. 2553 พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 68.1% ไม่รู้ว่ารัฐบาลกำหนดให้การแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ 59.7% ไม่รู้ว่าภาครัฐมีมาตรการลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีเพียง 19.4% ที่ทราบจากการรณรงค์ต่างๆ เช่น โครงการเมาไม่ขับหรือการรณรงค์ในช่วงเทศกาลสำคัญ และการติดป้ายบอกเตือนเส้นทาง ติดป้ายให้ระวัง อีกทั้ง 49.8% ไม่เคยทราบว่า อุบัติเหตุทางถนนทำให้มีคนตายเฉลี่ยวันละ 30 คน หรือปีละ 11,000 คน ซึ่งสูงกว่าอาชญากรรม 4 เท่า

 

          นพ.ธนะพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มตัวอย่างถึง 70.7% รู้ตัวว่าเสี่ยงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน โดย 26.3% เชื่อว่าการเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องของโชคชะตา คราวเคราะห์ 71.9% เชื่อว่าเกิดจากความประมาทของทั้ง 2 ฝ่าย 45.7% เพราะปัจจัยแวดล้อม เช่น สภาพถนน สิ่งแวดล้อม สภาพรถ ขณะที่ 93.8% ระบุว่าปัญหาเกิดจากรถโดยสารสาธารณะที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย มีสาเหตุมาจากตัวผู้ขับขี่ เช่น ประมาท ขับเร็ว ขับปาด แซงคับขัน ขาดความชำนาญ เมาแล้วขับ อีก 44.2% เป็นเพราะตัวรถ และ 36.7% เพราะสภาพถนนและสิ่งแวดล้อมที่อันตราย

 

          “ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า วิธีช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนของประชาชน คือดื่มไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ขับรถย้อนศร ง่วงไม่ขับ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ขณะที่วิธีการบรรลุเป้าวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลต้องทำอย่างเร่งด่วน 3 อันดับแรก คือ ป้องกันคนเมาแล้วขับ ลดความเร็วบนท้องถนน และการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่” นพ.ธนะพงศ์ กล่าว

 

          นพ.ธนะพงศ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มตัวอย่าง 65.2% ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง 58.5% ต้องการให้ตำรวจหาสาเหตุของอุบัติเหตุมากกว่าไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ 55.4% บังคับใช้กฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ และ 49% อยากให้เพิ่มกำลังตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังอยากให้ มีการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องขับขี่ปลอดภัย อาทิ กำหนดเป็นหลักสูตรในโรงเรียน เป็นต้น

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์astv ผู้จัดการ

 

 

update : 01-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน