โจ๋สุรินทร์ ยังกินสุราหนักต้องแก้ ซื้อง่ายขายคล่อง

“น้ำเมา” ยังคงเป็นภัยร้ายทำลายชีวิตทรัพย์สินเกียรติยศชื่อเสียงของคนดื่มครอบครัว คนรอบข้างสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอยู่ ถึงขนาดกล่าวได้เต็มปากเลยว่าทำลายเศรษฐกิจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตั้งแต่ระดับตัวครอบครัวไปจนถึงระดับชาติ

ทุกเทศกาลไม่เว้นกระทั่งบุญเข้าพรรษาวิสาขบูชาก็ยังอ้างไปทำบุญสร้างสุขแต่ดื่มน้ำเมาตลอดทาง ยังไม่ทันเจอสุขเจอทุกข์สาหัสแทน ไม่ใช่ก่อทุกข์แค่ตัวเอง ยังเอาทุกข์ไปให้คนอื่นให้ชาติบ้านเมืองแบกไว้อีกในปีหนึ่งๆ ทำลายเศรษฐกิจคิดเป็นตัวเลขแล้วมหาศาล คิดเป็นความทุกข์ยากเดือดร้อนแล้วหนักหนาสาหัสสากรรจ์จนไม่อาจเอาอะไรมาเป็นตัวชีวัดได้

จากการเปิดเผยข้อมูล ของมูลนิธิขวัญชุมชน ที่ได้ลงพื้นที่ทำการสำรวจสถานการณ์การดื่มของผู้หญิงและเยาวชนหญิง จำนวน400 คนในชุมชนพื้นที่ 5 ตำบล 5 จังหวัดอีสานตอนล่าง พบสิ่งที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ของ ผู้หญิงและเยาวชนหญิง ว่า เริ่มลองครั้งแรกอายุ16 ปีคิดเป็นร้อยละ 27.3 ใช้งานเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น สงกรานต์ปีใหม่ เป็นจุดเริ่มร้อยละ 48.8 และพบว่าร้อยละ 95.4 ซื้อเครื่องดื่มจากร้านค้าในหมู่บ้าน เพราะเข้าถึงได้ง่าย ไม่มีการจำกัดเวลาและอายุของผู้ซื้อทั้งๆ ที่มี กม.ห้ามไว้

ข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ที่ชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมในสังคมดึงดูดเยาวชนเข้าสู่การดื่มอย่างง่ายดายและน่าเป็นห่วง เช่น ร้านขายเหล้าสถานบันเทิง มีอยู่รอบบ้านและสถานศึกษา หรือถูกมอมเมาด้วยโฆษณาแอลกอฮอล์มาก ดูดเยาวชนเข้าสู่การเป็นนักดื่มเร็ว ดื่มหนัก และก่อปัญหามากกว่าเยาวชนที่ไม่ดื่ม

นายกัณณพล ภักดีเศรษฐสกุล นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)ระบุว่า ผลสำรวจพบร้านค้าสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าส่วนมากจะปฏิบัติตามกฎหมายทั้งในเรื่องการจำกัดอายุผู้ซื้อและการจำหน่ายน้ำเมา แต่ในจังหวัดสุรินทร์พบเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อเหล้ามาดื่มจากร้านค้าในหมู่บ้านได้มากถึงร้อยละ 99.6 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก และสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในการบังคับใช้กฎหมาย หากไม่มีการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาในอนาคตข้างหน้าเยาวชนกลุ่มนี้จะกลายเป็นนักดื่มประจำถึง 2 ใน 3 และจะเป็นผู้ก่อปัญหาสังคมในระยะยาว

ดังนั้นเพื่อขับเคลื่อนให้จังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่เข้มแข็ง ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา มูลนิธิขวัญชุมชน จึงรวมตัวกันจัดประชุมสัมมนาวิชาการเรื่อง “สุรากับเยาวชน : สถานการณ์และมาตรการนำไปสู่การจัดการกับปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนในระดับพื้นที่” ขึ้นที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายของร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเด็นการกำจัดอายุของผู้ซื้อและการรับรู้ของมาตรการอย่างมีส่วนร่วมในพื้นที่

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า พฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนมีความสัมพันธ์กับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ เพราะเยาวชนเป็นอนาคตของชาติ การลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชน โดยเฉพาะการจำกัดอายุของผู้ซื้อ เท่ากับเป็นการลดความสูญเสียและผลกระทบทางสุขภาพสังคม และเศรษฐกิจ รวมถึงชีวิตลูกหลานชาวสุรินทร์

ด้าน นายศักดา เชื้ออินทร์ ประธานคณะทำงานประชาสังคมสุรินทร์สร้างสุข ได้แสดงความห่วงใยต่อปัญหาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานเกี่ยวของกับเด็กและเยาวชนจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ได้เป็นหน้าที่ใครคนใดคนหนึ่งที่ผ่านมาเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากมีการทำงานในลักษณะต่างคนต่างทำ ซึ่งไม่สามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหานี้ได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือ ทุกภาคส่วนต้องระดมความคิดต้องมาร่วมมือกัน และที่สำคัญร้านค้า หรือคนขายเหล้า ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมมากกว่านี้จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้

ต้องรวมหัวใจหยุดเห็นแก่ตัว ไม่มุ่งประโยชน์ตน ช่วยกันปิดประตูลงดานเผยแพร่น้ำเมาแบบ”ซื้อง่ายขายคล่อง”พร้อมๆ กันทั่วประเทศ ย่อมหยุดความเสียหายดังที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ โดยเฉพาะที่เกิดกับเยาวชน ต่อไปคำว่า “คนสุรินทร์ ต้องกินสุรา” คงจะใช้ไม่มีให้ได้ยินกันอีกแล้วแน่นอน

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code