`แอโรบิกเด็ก` ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน เรื่องของการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับวัยเด็กด้วยแล้ว หากมีการส่งเสริมให้ออกกำลังกายตั้งแต่เล็กๆ นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมพัฒนาการ การเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาสติปัญญา ภาวะทางอารมณ์ และมนุษยสัมพันธ์ทางสังคมอีกด้วย


'แอโรบิกเด็ก' ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ thaihealth


แฟ้มภาพ


ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงชักชวนคุณน้องๆ หนูๆ อายุ 7-12 ปี มาสนุก กับกิจกรรม "แอโรบิกเด็ก" การออกกำลังกายที่ออกแบบท่วงท่ามาสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ ช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการเจ้าตัวเล็ก และสนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับคุณครูจากเครือข่ายคนไทยไร้พุง


ครูแมงปอ-นรีแพรว แก้วกังวาน ครูสอนเต้นและวิทยากรกิจกรรมแอโรบิกเด็ก กล่าวว่า การเต้นออกกำลัง หรือแอโรบิก คือการใช้เสียงเพลงและเครื่องดนตรีต่างๆ ประกอบการเต้น เพื่อให้เด็กรู้สึกสนุกสนาน ไม่ซ้ำซากจำเจ ไม่เบื่อ และสนใจที่จะออกกำลังกาย โดยแอโรบิกสำหรับเด็กมีความแตกต่างจากแอโรบิกของผู้ใหญ่ตรงที่การออกแบบท่าเต้นจะง่าย ไม่ซับซ้อนมาก โดยเอาท่าที่คล้ายๆ กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรามาประยุกต์ ให้เด็กสามารถจินตนาการ เกิดความเข้าใจได้ เช่น ท่ากระโดด ท่ารอรถเมล์ ฯลฯ แล้วนำมาประยุกต์กับเสียงเพลงจังหวะสนุกๆ ให้เขาออกกำลังโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังออกกำลังกายอยู่


โดยการเต้นแอโรบิกเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขนและขา เนื่องจากแอโรบิก ผู้เต้นต้องเคลื่อนไหวร่างกายเป็นระยะเวลานาน จึงช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบริหารให้กล้ามเนื้อหัวใจมีความแข็งแรงและได้รับออกซิเจนมากขึ้น การเต้นแอโรบิกยังช่วยลดอัตราความเครียดของเด็ก และเสริมสร้างสมาธิซึ่งช่วยในด้านสติปัญญา การเรียนรู้ ช่วยสร้างเสริมศักยภาพความยืดหยุ่นของร่างกาย ช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทำงานของหัวใจ จึงช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคหวัด โรคภูมิแพ้ที่เกิดมากในเด็ก อีกทั้งยังเป็นการฝึกการเข้าสังคมของเด็กอีกด้วย


สิ่งสำคัญก่อนการออกกำลังกายทุกครั้ง ต้องมีการวอร์มอัพและคูลดาวน์ทุกครั้ง โดยการทำท่ากายบริหารที่ช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนและหลังการออกกำลังกายสักประ มาณ 5-10 นาที วิธีนี้จะช่วยเตรียมกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่นในการเต้น ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น การก้มศีรษะขึ้นลง เอียงซ้ายขวา บริหารแขนขา เป็นต้น และยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการเคลื่อนไหวท่าต่างๆ ในขณะที่เด็กเต้น ซึ่งระยะเวลาในการออกกำลังกายสำหรับเด็กเพื่อสุขภาพที่ดีควรทำอย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป วันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง และควรมีการแบ่งเวลาพัก และควรออกกำลังกายในสภาวะอากาศที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในขณะที่อากาศร้อนจัด มีแสงแดดมากๆ หรือถ้ามีการออกกำลังกายก็ควรมีน้ำดื่มให้เพียงพอสำหรับความต้องการของเด็ก


สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมกิจกรรมโดยส่งชื่อนามสกุล อายุ ที่อยู่ และเบอร์โทร. ระบุกิจกรรมมาที่ [email protected] สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08-1731-8270 (09.00-17.00 น. จันทร์-เสาร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) Line ID: thaihealth_center ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealthcenter.org.


น้องหลุยส์-ณรัก ยาจันทร์ทา อายุ 9 ปี โรงเรียนอัสสัมศึกษา ผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า รู้สึกสนุกมากที่ได้มาเต้นแอโรบิก ดีใจมากๆ ค่ะ เพราะว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ ทำให้เราออกกำลังกาย ขณะที่ คุณแม่ปลา-ประทุมมา เกียรติกมลชัย อายุ 42 ปี แม่บ้าน เผยว่า ที่สนใจให้น้องหลุยส์เข้าร่วมกิจกรรมเพราะว่ามีเพื่อนชักชวนให้มาร่วมกิจกรรมที่ สสส. มีกิจกรรมด้านสุขภาพที่มีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งพอน้องมาเขาก็สนุกสนาน ได้ปลูกฝังให้รักการออกกำลังกาย มีการเข้าสังคม ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ฝึกด้านการแสดงออกด้วยค่ะ


น้องคุณ-วุฒิชาติ วสุภิญโญ อายุ 11 ปี  โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย บอกว่า ปกติก็ชอบเต้นอยู่แล้ว เคยเต้นตามงานที่โรงเรียนบ้างครับ ซึ่งกิจกรรมเต้นแอโรบิกครั้งนี้ก็สนุกมากครับ ได้มาออกกำลังกาย ขยับร่างกายบ้าง แม้ท่าที่เต้นจะยากไปหน่อย แต่ก็เอามาใช้ออกกำลังที่บ้านได้ครับ


น้องปลื้ม-วุฒิภัทร วสุภัทรภิญโญ อายุ 10 ปี โรงเรียนสมาหารศึกษา บอกว่า การเต้นแอโรบิกวันนี้สนุกมาก ชอบมากครับที่ได้มาออกกำลังกาย ทำให้สุข ภาพเราแข็งแรงด้วย มีโอกาสก็อยากมาร่วมกิจกรรมที่ สสส.อีกครับ.

Shares:
QR Code :
QR Code