แห่โทรเลิกเหล้าเท่าเข้าพรรษา

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


แห่โทรเลิกเหล้าเท่าเข้าพรรษา thaihealth


แฟ้มภาพ


คนแห่โทรปรึกษาสายด่วนเลิกเหล้า 1413 เกือบเท่ากับช่วงที่ สสส.และภาคีเครือข่ายรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา โดยสาเหตุอาจมาจากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อรับมือโควิด-19


พ.อ.(พิเศษ) นพ.พิชัย แสงชาญชัย ผู้อำนวยการศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา 1413 สายด่วนเลิกเหล้า สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ช่วงประกาศภาวะฉุกเฉินและห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบประชาชนโทรฯเข้า 1413 สายด่วนเลิกเหล้าเพื่อให้สามารถหยุดการดื่มได้อย่างปลอดภัยจำนวนมาก เกือบเท่ากับช่วงที่ สสส. รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน


นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รอง ผู้อำนวยการ รพ.น่าน กล่าวว่า ผู้มีปัญหาจากการดื่มสุราในประเทศไทยคาดว่ามีประมาณ 1,800,000 คน มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ จะส่งผลให้ผู้มีปัญหาจากการดื่มประมาณ 2% หรือ 36,000 คนทั่วประเทศ แต่พบจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในรพ.น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยใน จ.น่าน ประเมินไว้ 259 คน


จากการเก็บข้อมูลวันที่ 9-16 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยภาวะถอนพิษสุราเข้ารักษาใน รพ.ทุกแห่งของ จ.น่าน 40 คน เนื่องจากทีมจิตแพทย์ รพ.น่าน ได้ค้นหาผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรังที่เคยเข้ารักษาในรพ.และกระจายให้พยาบาลจิตเวชชุมชนทุกอำเภอ  หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ มือสั่นให้มารับยาที่ รพ.ทันที มาตรการนี้ยังช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนใน จ.น่าน จากปีที่แล้วมีผู้ป่วยนอนรักษาที่ รพ. 65  ราย เหลือ 15 ราย ลดลง 76.9%  ผู้เสียชีวิตลดลงจาก 5 ราย เหลือเพียง 1 ราย ลดลง 80% และไม่มีผู้ป่วยอุบัติเหตุที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ


ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า มาตรการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้ ช่วยชีวิตคนให้รอดจากอุบัติเหตุทาง ถนนประมาณ 300 กว่าคน และลดจำนวนเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่เมาแล้วขับจาก ปีที่แล้ว 20.0% เหลือเพียง 5.5%


สสส.ภาคีเครือข่ายที่ทำงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน จะนำประเด็นเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปศึกษาเพื่อถอดบทเรียนเสนอรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาผลักดันให้เป็นรูปธรรมทุกเทศกาลสงกรานต์

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ