แพทย์เตือน 5 สัญญาณจิตป่วยเสพติดความสวย
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แฟ้มภาพ
แพทย์เตือน 5 สัญญาณเสพติดความสวย ป่วยทั้งกายทั้งจิต จนกลายเป็นเหยื่อธุรกิจความงามอาหารเสริม
นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์และโฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าทุกยุคทุกสมัยใครๆ ก็ต้องการดูดี สวยงาม แต่บางคนแม้จะดูดีอยู่แล้ว แต่ก็มีความกังวลมากเกินไป ถึงขั้นมาพบจิตแพทย์ ด้วยอาการที่ว่ารู้สึกกังวลกับรูปร่างและหน้าตาของตัวเอง จึงขอเตือนว่า 5 อาการต่อไปนี้ที่หากใครเป็นก็ขอให้ระมัดระวัง คือ 1.หมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป เพราะกังวลว่าไม่สวย ไม่พึงพอในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง 2.เครียดว่าไม่สวย จนกินอะไรไม่ได้ นอนไม่หลับ 3.ไม่มีสมาธิในการเรียน หรือการทำงาน 4.เริ่มมีปัญหากับคนรอบข้าง เพราะหงุดหงิดง่าย 5.หนักสุดเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยาก หรือควบคุมไม่ได้
“คนไข้ที่มาปรึกษาจิตแพทย์ เรื่องความงาม หรือความไม่พึงพอใจในหน้าตาของตัวเองมีมากขึ้น เช่น คนไปทำศัลยกรรมทำแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่พอใจ หรือบางคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะรู้สึกว่าไม่สวยก็มี” นายแพทย์อภิชาติกล่าว
เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนยุคปัจจุบันที่ให้คุณค่ากับความสวยงามต่างจากอดีต มีการเปรียบเทียบกับคนอื่น ต้องการโชว์ตัวเองในโซเชียลมีเดีย จนอยากสวยแบบด่วน อย่างการผ่าตัดศัลยกรรม สวยตามเทรนด์อย่างขาวใสเปล่งประกาย จนเกิดธุรกิจผลิตสินค้าความงามจำนวนมากและหลากหลาย เพราะมีคนที่ซื้อแล้วซื้ออีก ด้วยการจ้างคนดัง ดารา ศิลปิน เน็ตไอดอลมารีวิวสินค้า ซึ่งเป็นวิธีขายที่ได้ผลกับคนยุคปัจจุบันมาก
ทำไมคนดังรีวิวสินค้าแล้วได้ผล ได้ยอดขายง่ายกว่าวิธีอื่น เรื่องนี้นายแพทย์อภิชาติ อธิบายว่าเพราะตอบโจทย์ความต้องการคนยุคใหม่ ที่ชีวิตเสพติดความงาม และเสพติดความเร็ว และมีเครื่องมือสื่อสารติดตัวตลอดเวลา ขณะที่การโฆษณาแบบเดิมๆ ไม่สร้างความน่าเชื่อถือเท่ากับมีคนดังมารีวิวให้ฟังผ่านคลิปที่เข้าถึงมือกลุ่มเป้าหมายทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นการตัดสินใจซื้อและใช้ตาม จึงเกิดขึ้นง่าย
ขณะเดียวกันมีข้อมูลวิจัยตลาดว่าธุรกิจเกี่ยวกับความงามนี้มีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี อย่างบริษัทกันตาร์ เวิลด์พาแนล (ไทยแลนด์) ระบุว่ามูลค่าตลาดเครื่องสำอาง ความงาม ซึ่งรวมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ดูแลผม เมคอัพ และบอดี้แคร์ ปี 2560 มูลค่า 57,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 ร้อยละ 3.8
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยประเมินว่า ตลาดวิตามินและอาหารเสริมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2559 มีมูลค่า 53,810 ล้านบาท ปี 2560 ประมาณ 60,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 โดยมีกลุ่มลูกค้าสำคัญคือกลุ่มมิลเลเนียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดช่วง ปี 2523-2543 หรืออายุ 17-37 ปี ประมาณ 20 ล้านคน หรือร้อยละ 30 ของจำนวนคนไทยทั้งหมด
กลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์เด่น คือมีความอิสระทางความคิด ปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้ดี ไม่ติดกับการใช้อะไรนานๆ จึงพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใหม่เรื่อยๆ เป็นกลุ่มที่ไม่เชื่อแค่โฆษณา แต่เชื่อคำบอกเล่าแบบบอกต่อจากเพื่อน หรือคนที่น่าเชื่อถือ อย่างกูรู บล็อกเกอร์
พฤติกรรมแบบนี้ทำให้ธุรกิจที่เข้ามาในตลาดจึงมักมีสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ เข้ามาได้เรื่อยๆ นอกจากมีคนดังมารีวิวแล้ว จึงมีการสร้างตัวแทนจำหน่ายลักษณะเครือข่ายเพื่อให้เกิดการบอกต่อมากขึ้นด้วย
นี่คือปรากฏการณ์ที่ธุรกิจเห็นช่องทางในการสร้างความร่ำรวย ที่หากทำไม่ถูกต้อง ผู้บริโภคคือผู้รับความเสียหายทั้งหน้าพัง เสียสุขภาพ และเสียเงินมหาศาล เหมือนอย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับการทลายเครือข่ายเครื่องสำอาง และอาหารเสริม “เมจิก สกิน” ที่มีหลายคนตกเป็นเหยื่อ และแน่นอนว่า “เมจิก สกิน” จะไม่ใช่รายสุดท้าย เพราะมีคนจำนวนมากที่ยังคิดว่า อย่าหยุดสวย และถ้าไม่สวย ก็จะยังไม่หยุด