แพทย์ชี้แก้ กม.คุมยาสูบ
หวังตัดตอน‘บุหรี่ไฟฟ้า‘
นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 ในเรื่องคำนิยาม “ผลิตภัณฑ์ยาสูบ” ให้หมายถึงผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ จากเดิมที่ระบุเพียงว่า เป็นยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบและผลิตภัณฑ์อื่นใดที่มีส่วนประกอบของยาสูบว่า ในส่วนของการปรับแก้คำนิยามนั้น จะหมายรวมไปถึงบารากู่ ที่นิยมสูบกันในสถานบันเทิงด้วย เพราะบารากู่มาจากยาเส้นผสมกับผลไม้หมัก จึงเข้าข่ายชัดเจน นอกจากนี้ ยังรวมถึงการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ที่พบว่าได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้าก็มาจากใบยาสูบเช่นกัน ดังนั้น การแก้คำนิยามดังกล่าวจะเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการอ้างว่านิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนิโคตินสังเคราะห์
นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า บุหรี่ไฟฟ้าที่จำหน่ายในปัจจุบันยังไม่มีการขออนุญาตการนำเข้าจากกรมสรรพสามิต หรือหน่วยงานใดๆ ทั้งๆ ที่บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมด้วย อย่างไรก็ตาม บุหรี่ไฟฟ้า หรือ อี ซิกาแร็ต (e cigarette) เป็นสินค้าเลียนแบบบุหรี่ที่ผู้จำหน่ายโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเลิกสูบบุหรี่ แต่พบว่าปริมาณนิโคติน (nicotine) สูงกว่าบุหรี่ทั่วไปหลายเท่า นับเป็นภัยตัวใหม่ จึงมีผลเสียต่อผู้ที่สูบ หากสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ 1 มวน จะเท่ากับสูบบุหรี่ ทั่วไปถึง 15 มวน แม้ว่าตัวน้ำยานิโคตินจะมีการปรุงแต่งกลิ่นให้หอมเช่นกลิ่นช็อกโกแล็ตกลิ่นผลไม้รวมก็ตาม แต่พิษภัยยังคงมีเหมือนเดิม หากนำไปใช้โดยปราศจากการดูแลของแพทย์ จะเป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดได้ หลายประเทศได้สั่งห้ามการใช้สินค้านี้แล้ว เช่น รัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลีย, บราซิล, อิสราเอล, จอร์แดน, ตุรกี เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
update : 10-01-54
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน