แนะ 6 วิธีใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
วันที่ 30 กันยายนนี้ ถือว่าเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของใครหลายคนบนเส้นทางการทำงานหลายสิบปี ซึ่งก็ต่างเดินหน้าเข้าสู่วัยเกษียณอายุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แนะการปฏิบัติตน 6 ข้อ สร้างสุขสำหรับวัยเกษียณ
วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปีนอกจากจะเป็นวันผู้สูงอายุสากลแล้ว ยังเป็นวันชีวิตของข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปี จะเปลี่ยนไปสู่การเป็นผู้ที่เกษียณอายุ จากที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานตลอด 5 วัน จันทร์ถึงศุกร์ มีตารางการทำงานประจำวันที่ชัดเจน มีบทบาทหน้าที่ให้รับผิดชอบ รวมถึงเป็นผู้มีคนนับหน้าถือตา กลายเป็นมีเวลาว่าง ส่งผลต่อการใช้ชีวิต จนบางครั้งยากที่จะปรับตัวได้
การเข้าใจชีวิต เข้าใจตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญที่ข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการ ต้องนำมาปรับการใช้ชีวิต โดยนายแพทย์ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แนะนำ 6 ข้อ ปฏิบัติแนวทางสร้างสุขสำหรับวัยเกษียณอายุ เช่น การเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกาย การใฝ่รู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ เช่น การเป็นจิตอาสา จิตสาธารณะ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพใจ ของผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณค่าได้
การเข้าสังคม และผูกมิตรกับคนอื่นๆ เป็นหนึ่งวิธีคลายเหงา พร้อมๆ กับ การหากิจกรรมที่ทำให้ชีวิตมีสติมากขึ้น เช่น นั่งสมาธิ ฝึกจิต เข้าวัดทำบุญ รวมถึงการดูแลสวน ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ กิจกรรม ที่วัยเกษียณสามารถสร้างตารางกิจกรรมให้ชีวิตมีความสุข และยังจะเป็นการแบ่งปันความสุขไปยังคนรอบข้างได้
ทั้งนี้ โฆษกกรมสุขภาพจิต แนะนำว่า การปรับเปลี่ยนชีวิตหลังวัยเกษียณไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากตัวผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีเป้าหมาย รวมถึงได้รับการร่วมมือที่ดีจากคนรอบข้าง การมีชีวิตที่มีความสุข มีคุณค่า และไม่เป็นภาระของคนในสังคมในยุคที่หลาย ๆ ประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ช่วงชีวิตหลังการเกษียณก็จะเป็นช่วงเวลาของการสร้างสรรค์สิ่งดีงามและสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและสังคมได้