แนะ 5 เคล็ดลับ เดินทางหน้าฝน

ประหยัดน้ำมัน

แนะ 5 เคล็ดลับ เดินทางหน้าฝน

 

          นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การตรวจเช็คสภาพรถเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้รถในช่วงหน้าฝน ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากพื้นผิวจราจรทั้งเปียกและลื่น ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการยึดเกาะถนนของยาง และปัญหาที่ตามมาอีกอย่างหลังฝนตก คือปัญหาการจราจรติดขัด ทำให้การเดินทางล่าช้าลง สิ้นเปลืองเวลาและน้ำมัน โดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น นพ. ขอแนะนำ 5 เคล็ดลับ ในการขับรถประหยัดน้ำมัน รับหน้าฝนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ทุกเส้นทางที่รถของคุณต้องวิ่งผ่านเป็นไปได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันตลอดการเดินทาง

 

          1. เช็คเส้นทางให้พร้อมก่อนเดินทาง โดยเลือกเส้นทางการจราจรที่ใกล้ที่สุดหรือตรวจสอบเส้นทางได้จากรายการวิทยุ สวพ.91 จส.100 หรือโทร.1197 เพื่อให้ไปถึงจุดหมายโดยใช้ระยะทางที่ใกล้ไม่หลงทาง ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน และควรเตรียมหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานบริการช่วยเหลือกรณีรถเสียระหว่าง ทาง เช่น สถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน 1167

 

          2. เช็คผ้าเบรก หมั่นนำรถเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการตรวจเช็คคือผ้าเบรก เพราะการเดินทางในเส้นทางบางช่วงอาจต้องแตะเบรกบ่อยครั้งและบางช่วงถนนเปียก ลื่นหลังจากฝนตก ดังนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจความพร้อมของผ้าเบรกให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพราะหากเบรกแล้วรถไม่หยุดในระยะปกติจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันประมาณวันละ 400 ซีซี

 

          3. เช็คระบบห้ามล้อ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มจากเช็คระยะเบรกมือ โดยดึงเบรกมือแล้วเช็คว่ารถมีการเคลื่อนตัวหรือไม่, เช็คสภาพของยาง เพราะการเสื่อมสภาพของยางไม่ใช่เพียงความสึกของดอกยางที่หายไปเท่านั้น แต่โครงสร้างของยางภายในหรือเนื้อยางจะเสื่อมสภาพไปตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งระยะเวลาของการใช้งานยางชุดหนึ่งๆ ไม่ควรใช้มากกว่า 2 ปี ไม่ว่าคุณจะใช้มากน้อยเพียงใด, เช็คแรงดันลมยาง โดยตรวจเช็คลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะหากลมยางต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้การขับขี่สิ้นเปลืองน้ำมันประมาณร้อยละ 2

 

          4. เช็คระบบเครื่องยนต์ คงไม่ยากเกินไปนักที่คุณจะเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ และตรวจระดับน้ำในหม้อพักน้ำ ให้อยู่ในระดับระหว่างช่วง MAX กับ MIN (ถ้าต่ำกว่า MIN ให้เติมเพิ่ม), เช็คสภาพท่อยางหม้อน้ำ ตรวจดูรอยรั่วซึม ซึ่งสังเกตได้จากคาบน้ำบนท่อยาง, เช็คสภาพหัวเทียน ถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูคราบเขม่า หากมีให้ทำความสะอาด จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ 600 ซีซี

 

          5. เช็คระบบไฟสัญญาณ ได้แก่ ไฟหรี่, ไฟหน้าสูง-ต่ำ, ไฟเลี้ยว, ไฟเบรก, ไฟฉุกเฉิน, ไฟถอยหลัง และไฟส่องท้าย รวมถึงเช็คระบบน้ำฉีดกระจก สภาพใบปัดน้ำฝน ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่

 

          การตรวจเช็ครถยนต์อย่างสม่ำเสมอเป็นการช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่อยากฝากถึงผู้ใช้รถทุกคนก็คือ ควบคุมความเร็วในการขับขี่ โดยไม่เพิ่มหรือลดความเร็วอย่างกะทันหัน เพราะการขับขี่บนถนนที่เปียกจะทำให้การบังคับรถทำได้ยากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาเบรก ควรแตะเบรกเบาๆ ต่อเนื่องสัก 2-3 วินาที ทำอย่างนี้ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ความร้อนจากการเบรกไล่ความชื้นออกไป และช่วยป้องกันท้ายรถปัดได้ ดังนั้นหากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น จะช่วยผู้ใช้รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเงิน ขับขี่ปลอดภัย และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์ของคุณในช่วงหน้า ฝนนี้นายวีระพล กล่าว

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

 

 

Update : 05-08-53

อัพเดตเนื้อหาโดย : คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code