แนะ ขึ้นดอยรับอากาศหนาว ระวังอุบัติเหตุทางถนน

ที่มา: สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค


แนะ ขึ้นดอยรับอากาศหนาว ระวังอุบัติเหตุทางถนน thaihealth


แฟ้มภาพ


กรมควบคุมโรค แนะนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นดอยและภูเขาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคะวันออกเฉียงเหนือ ให้ระมัดระวังอุบัติเหตุทางท้องถนนช่วงหน้าหนาว และช่วงหมอกลงจัด หลังปี 59 ที่ผ่านมามีรายงานการประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนกว่า 5.5 พันครั้ง พร้อมขอให้ศึกษาเส้นทางและตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง หากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย

                นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้เริ่มมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับมีฝนเล็กน้อยหลายพื้นที่ บริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปตั้งเต๊นท์ รับอากาศหนาว แต่หากไม่เตรียมตัวและอุปกรณ์ให้พร้อม อาจเกิดอุบัติเหตุทางจราจรขณะเดินทางขึ้นดอยได้

         ข้อมูลจากสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ในช่วงฤดูหนาว ปี 2559 (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) มีรายงานการประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินทั้งสิ้น 5,523 ครั้ง เสียชีวิต 858 ราย  เป็นเพศชาย 610 ราย และเพศหญิง 248 ราย และมีอุบัติเหตุจากสภาพภูมิอากาศที่มีหมอก 118 ครั้ง เสียชีวิต 28 ราย ซึ่งประเทศไทยมีอุบัติเหตุจากสภาพภูมิอากาศที่มีหมอกเฉลี่ย 100 ครั้ง/ปี

        การเดินทางในช่วงฤดูหนาวที่มีหมอกลงจัดนั้น ถ้าไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือประชาชนอาจจะเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพื่อให้หมอกควันจางลง จนสามารถขับขี่ได้สะดวกและมองเห็นผิวถนนอย่างชัดเจนขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังดอยหรือภูต่างๆ ควรติดต่อคนขับรถประจำทางที่มีความชำนาญทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ แต่หากจะขับขี่รถไปเอง ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยก่อนขึ้นดอยนั้น ควรปฏิบัติดังนี้ 1) เตรียมรถให้พร้อม รวมถึงตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนต่างๆ เช่น ไฟหน้ารถ ไฟเลี้ยว ไฟท้ายรถ 2) ศึกษาเส้นทางที่จะไปก่อนเดินทาง และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เช่น  ทางลาดชัน ทางโค้ง ทางแยก ทางแคบ 3) ขณะที่มีหมอกลงจัดปกคลุมถนน ให้เปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอก เพื่อให้สามารถมองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจน และลดความเร็วลงเท่าที่สายตาของเราจะสามารถมองฝ่าหมอกไปได้  4) ไม่ควรขับแซงหรือเปลี่ยนช่องทางการจราจรอย่างกะทันหัน และ 5) หากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดีและสภาพถนนจะลื่นกว่าปกติ ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน ที่พักรถริมทาง รอจนกว่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น จึงค่อยขับรถต่อไป

        นอกจากนี้ กรณีที่รถเสียควรหาจุดจอดรถที่ปลอดภัย โดยจอดรถชิดริมขอบทางให้มากที่สุด เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน และนำป้ายเตือนหรือวัสดุอื่นๆ ที่สะท้อนแสงมาวางไว้ด้านหลังรถ ให้ห่างจากจุดที่จอดรถในระยะไม่น้อยกว่า 50 เมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่รายอื่นมองเห็นได้อย่างชัดเจน หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

Shares:
QR Code :
QR Code