แนะใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอดส์
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแนะผู้ติดเชื้อเอดส์ บริโภคพืชผักสมุนไพรรสขม ช่วยบำรุงร่างกายเจริญอาหาร ออกกำลังกายแบบไทยฤาษีดัดตนและโยคะ กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจได้ดี
ดร.นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (who) ได้กำหนดให้ วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีเป็น “วันโลกต้านเอดส์” (world aids day) หรือ วันเอดส์โลก “getting to zero” หรือ “เอดส์ ลดให้เหลือศูนย์ได้” ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งรัดการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ภายใต้แนวคิด 3 ต. ข้างต้น คือ ไม่ติด คือ ลดการติดเชื้อรายใหม่ การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก จากการใช้เข็มฉีดยา เป็นต้น ไม่ตาย คือ ลดอัตรการเสียชีวิตจากเอดส์ เนื่องด้วยผู้ที่ติดเชื้อ hiv หรือ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพในสถานบริการของรัฐอย่างรวดเร็ว ทันเวลา ไม่ตีตรา และเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ทางกฎหมาย ทางสังคม การเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน เป็นต้น สำหรับประเทศไทยในปี 2556 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อ aiv และผู้ป่วยโรคเอดส์สะสมประมาณ 1,166,543 คน ยังมีชีวิตอยู่ 447,640 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,959 คน ประมาณร้อยละ 62 เป็นการติดเชื้อในกลุ่มชายรักชาย กลุ่มพนักงานบริการหญิง และกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-34 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป
ดร.นพ.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเอดส์หรือผู้ติดเชื้อเอดส์ มักจะประสบปัญหาเรื่องโรคผิวหนัง เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ดังนั้นอาการที่ปรากฎให้เห็นดังกล่าวสามารถใช้หลักทางการแพทย์แผนไทยช่วยดูแลได้ ยกตัวอย่าง ด้านโภชนาการ อาหารประเภทโปรตีน ไขมัน วิตามินเร่ธาตุต่างๆจะช่วยรักษาระดับภูมิต้านทานโรคของร่างกาย เพราะอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยยีดเวลาเจ็บป่วยจากโรคแทรกซ้อน ทำให้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสป่วยช้าลง อยากแนะนำพืชผักสมุนไพรที่มีรสขม เช่น มะระขี้นก ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร เห็ดหลินจือ มะขามป้อม เหงือกปลาหมอ ปรุงอาหารกินแบบวิถีชีวิตปกติ นอกจากสมุนไพรแล้ว การออกกำลังกายแบบไทยท่าฤาษีดัดตน ท่าโยคะ ท่ารำมวยจีน ท่าออกกำลังกายเหล่านี้เหมาะกับผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อเอดส์ ได้อย่างดี เพราะเน้นเรื่องการดัดตนและพลังลมปราณ ช่วยกระตุ้นการหายใจให้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอดได้ดี
รายละเอียดสอบถามได้ที่ สำนักงานสารนิเทศและสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร.02-1495678 หรือ www.dtam.moph.go.th
ที่มา : สำนักงานสารนิเทศและสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ กรมพัฒนาการแพทย์