แนะใช้ประเพณี “ลอยกระทง” ปลูกฝังความคิด จิตใจดี

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


แนะใช้ประเพณี “ลอยกระทง” ปลูกฝังความคิด จิตใจดี  thaihealth


แฟ้มภาพ


          กรมสุขภาพจิต แนะพ่อแม่ผู้ปกครอง ใช้ประเพณีวันลอยกระทง สร้างคุณภาพเด็กปกติและเด็กที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชหรือเด็กกลุ่มพิเศษซึ่งมีประมาณ 8 แสนคนทั่วประเทศ ฝึกการคิดสร้างสรรค์ทำกระทงร่วมกันในครอบครัว สร้างความเข้าใจความหมายการลอยกระทง สอดแทรกความคิดการทำดี รู้จักการขอโทษหลังทำไม่ดี ชี้พฤติกรรมแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่ ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจให้เด็ก พร้อมทั้งแนะให้ผู้ปกครองเพิ่มการดูแลเด็กกลุ่มพิเศษใกล้ชิด ลอยกระทงในจุดที่ปลอดภัย มีแสงสว่าง


          วันนี้ ( 3 พฤศจิกายน 2560 )  ที่จังหวัดนครราชสีมา นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยเกี่ยวกับการสร้างสุขภาพจิตดีในโอกาสประเพณีลอยกระทง ภายหลังเป็นประธานเปิดนิทรรศการให้ความรู้สุขภาพจิตแก่ประชาชนเนื่องในสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติระหว่างวันที่ 1 – 7 พฤศจิกายน 2560   ซึ่งโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันจัดขึ้นที่วัดบ้านมะค่างาม  ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว พร้อมกับทุกจังหวัดทั่วประเทศว่า สุขภาพจิตเป็นเรื่องใกล้ตัว และเกี่ยวข้องกับการดำเนินชิวิตของประชาชนในทุกๆ เรื่อง


          อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า เทศกาลวันลอยกระทงวันนี้ นับเป็นโอกาสอันดีของประชาชนในการพาลูกหลานทั้งเด็กปกติและเด็กที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช 4 โรคหรือเรียกว่าเด็กกลุ่มพิเศษได้แก่ ออทิสติก (Autistic)  โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactive Disorder ) เด็กสติปัญญาบกพร่อง ( Mental Retard ) และ.เด็กที่มีภาวะบกพร่องในการเรียนรู้ ( Learning Disorder ) ซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 8 แสนคน เด็กเหล่านี้ก็ต้องการความสนุกสนาน ได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกัน สร้างความผูกพันในครอบครัว   ให้เด็กๆได้ฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ ปลูกฝังการทำกระทงโดยใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่ายตามธรรมชาติเช่นใบตอง ขนมปัง  และสร้างความเข้าใจความหมายของวันลอยกระทง สอดแทรกความคิดการทำความดีโดยการทดแทนพระคุณของธรรมชาติ การขอขมาพระแม่คงคา ซึ่งเปรียบเสมือนการขอโทษหลังทำผิดหรือทำสิ่งที่ไม่ดี  น้อมรำลึกผู้มีบุญคุญกับเราทั้งธรรมชาติ บุคคล และการตั้งมั่นจะพัฒนาให้ดีขึ้นโดยการตั้งใจอธิษฐานก่อนลอยกระทงในน้ำ  ซึ่งในความหมายทางสุขภาพจิตคือการให้ทบทวนตนเอง ตระหนักรู้ ให้อภัยตนเองและผู้อื่น การมองตนเองในเชิงบวกเพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป


          “ ในเด็กปกติที่อยู่ในวัย 5-6 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มมีความเข้าใจและเริ่มเรียนรู้สิ่งแวดล้อมสังคม กระตือรือร้นในการเรียนรู้ใหม่ๆ การที่เด็กได้เข้าร่วมประเพณีลอยกระทงรวมทั้งกิจกรรมต่างๆทางสังคม การได้เห็นตัวอย่างจากพ่อแม่ผู้ปกครอง  จะทำให้เด็กรู้สึกเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจในตนเองในการทำความดีและมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคต ส่วนเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น จะมีผลช่วยให้เด็กควบคุมตนเองดีขึ้น  เกิดความมีคุณค่าและรู้สึกภูมิใจในตนเอง ในเด็กออทิสติก เด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ และสติปัญญาบกพร่อง อาจจะไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้งของการลอยกระทง แต่สิ่งที่เด็กจะได้รับคือการมีส่วนร่วมกิจกรรมในครอบครัวและทางสังคม และบอกความต้องการของตนเองได้" อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว


          ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จ.นครพนม กล่าวว่า ในการพาลูกหลานที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชไปร่วมเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆ  ขอให้ผู้ปกครองเพิ่มความระมัดระวังดูแลความปลอดภัยใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงเกิดอันตรายจมน้ำได้สูง แม้กระทั่งน้ำตื้นก็ตาม เนื่องจากเด็กจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมตนเอง ไม่เข้าใจถึงภาวะเสี่ยงหรือภาวะที่เป็นอันตราย ไม่กลัวภัยอันตราย เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น จะซนอยู่ไม่นิ่ง ชอบท้าทายโลดโผนอยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงเกิดอันตรายมาก จึงขอแนะนำให้ลอยกระทงในจุดที่ปลอดภัย มีแสงสว่าง อยู่ห่างจากตลิ่งแม่น้ำ หรือในเด็กออทิสติกซึ่งมีปัญหาในการสื่อสาร จะต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กลงไปลอยกระทงตามลำพัง


 

Shares:
QR Code :
QR Code