แนะเสริมความรู้ ‘จิตเวช’ ในโรงเรียน
ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
สพฐ.เปิดเผยสถิติพบนักเรียนป่วยด้วยโรคทางจิตเวชมากขึ้นกว่าร้อยละ 20 ระบุต้องจัดงบประมาณเพื่อจ้างนักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดูแลแก้ปัญหาเด็กที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าว
นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน (ฉก.ชน.) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า จากการรวบรวมสถิติของศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน และ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีนักเรียนป่วยเป็นโรคทางจิตเวชเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 อาทิ โรคสมาธิสั้น ภาวะซึมเศร้า และโรคไบโพลา ซึ่ง สพฐ.ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจะกระทบต่อการเรียนการสอนของเด็กได้ อีกทั้งครูประจำชั้น และครูแนะแนวส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคจิตเวชที่ถูกต้องจนทำให้บางครั้งอาจดูแลเด็กได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้น สพฐ.จึงต้องจัดงบประมาณเพื่อจ้างนักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดูแลแก้ปัญหาเด็กที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าว ทั้งนี้ การจ้างนักจิตวิทยาประจำเขตของสพฐ.ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้มีตำแหน่งเป็นลูกจ้างชั่วคราว แต่คนกลุ่มนี้อยากมีความมั่นคงในอาชีพ จึงอยากให้มีการเปิดตำแหน่งพนักงานราชการ หรือตำแหน่งข้าราชการขึ้น ให้มีเส้นทางในการเจริญเติบโต พร้อมยอมรับหากจะต้องไปใช้นักจิตวิทยาจากหน่วยงานอื่นอาจไม่ตรงกับความต้องการ เนื่องจากนักจิตวิทยาของหน่วยงานอื่นยังขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาและการดูแลเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะทาง ดังนั้น สพฐ.จึงจำเป็นต้องมีนักจิตวิทยาที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการศึกษา โดยอาจหารือกับสำนักนโยบายและแผนการศึกษา ของ สพฐ. เพื่อหาเส้นทางเติบโตในหน้าที่การงานให้แก่นักจิตวิทยา เช่น เป็นพนักงานราชการ เพื่อให้การดูแลเด็กด้านจิตวิทยามีประสิทธิภาพมากที่สุด