แนะเลือกใช้แปรงสีฟันติดดาวการันตีคุณภาพ

 

กรมอนามัยแนะประชาชนทุกกลุ่มอายุให้เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม สามารถทำความสะอาดฟันได้ดี ไม่เสี่ยงต่อการทำให้ฟันสึก เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเสียวฟัน ชี้เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ เลือกใช้แปรงสีฟันติดดาวของกรมอนามัย

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มเพื่อป้องกันอาการเสียวฟัน ว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากคนไทย โดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ร่วมกับสถาบันวิจัยเอแบคโพล สุ่มสำรวจประชาชนที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่ามีประชาชนใช้แปรงสีฟันชนิดขนแปรงนุ่ม ร้อยละ 52 และไม่เคยอ่านฉลากแปรงสีฟันมากกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 58 ทั้งๆ ที่แปรงสีฟันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ต้องระบุข้อมูลให้เพียงพอต่อการเลือกซื้อของประชาชน อาทิ ความอ่อนนุ่มของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิต และอายุที่เหมาะสมสำหรับแปรงสีฟันเด็ก เป็นต้น

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า จากการติดตามเฝ้าระวังคุณภาพแปรงสีฟันที่จำหน่ายในประเทศไทย เป็นระยะทุก 3 ปี ในปี 2554 โดยเก็บสำรวจแปรงสีฟันกว่า 300 รุ่น เพื่อตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของฉลาก และตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานวิชาการแปรงสีฟันกรมอนามัยพบว่า แปรงสีฟันที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และซุปเปอร์สโตร์ กว่าร้อยละ 80 ผ่านมาตรฐานกรมอนามัย ในขณะที่แปรงสีฟันจากตลาดนัด หรือจากแหล่งจำหน่ายสินค้าค้าส่งต่างๆ รวมทั้งแปรงสีฟันนำเข้าจากต่าง ประเทศ ที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่ระบุผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จัดจำหน่าย ส่วนใหญ่มีคุณภาพต่ำ โดยพบว่าขนแปรงหลุดร่วงง่าย ขนแปรงแข็ง ปลายขนแปรงคม ส่วนขอบโดยรอบหัวแปรงขรุขระไม่เรียบ ด้ามแปรงไม่แข็งแรงหักง่าย อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้

“การเลือกซื้อแปรงสีฟัน ควรเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม หรือนุ่มพิเศษ โดยดูจากฉลากสินค้า จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันได้ดี ไม่เสี่ยงต่อการทำให้ฟันสึก ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเสียวฟัน สำหรับการเลือกซื้อแปรงสีฟันให้เด็กให้ดูช่วงอายุที่ระบุบนฉลากแปรงสีฟันเด็กด้วย โดยเลือกซื้อให้ตรงตามอายุของเด็กที่จะใช้แปรง สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองต้องระวังไม่ซื้อแปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งและปลายขนแปรงคมให้ลูก นอกจากดูฉลากแล้วอาจทดสอบได้โดยแปรงลงบนหลังมือดูว่าขนแปรงคมหรือไม่ทั้งนี้ การดำเนินงานที่ผ่านมา นอกจากกรมอนามัยได้มีการเฝ้าระวังคุณภาพแปรงสีฟันในท้องตลาดแล้ว ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการแปรงสีฟันคุณภาพ โดยให้การรับรองคุณภาพแปรงสีฟันที่ผ่านมาตรฐานวิชาการกรมอนามัย ภายใต้โครงการแปรงสีฟันติดดาว ผู้บริโภคจะสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปดาวมีข้อความกรมอนามัยรับรองคุณภาพกำกับไว้อย่างชัดเจน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นพ.เจษฎา กล่าวอีกว่า การป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือก ที่ยังเป็นปัญหาสำคัญของประชาชนทุกกลุ่มวัยที่ดีที่สุดคือ แปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทุกซี่ฟันทุกเช้าและก่อนนอน และผู้ปกครองควรแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นในปากอายุประมาณ 6–9 เดือน ส่วนการเก็บรักษาแปรงสีฟันให้ถูกสุขลักษณะ เมื่อแปรงฟันเสร็จ ล้างแปรงให้สะอาด เก็บแปรงในที่แห้งอากาศถ่ายเทได้ดี หงายส่วนขนแปรงขึ้นในแนวตั้ง การวางขนแปรงคว่ำลง น้ำจะสะสมที่หัวแปรงทำให้แห้งช้า และเกิดการสะสมของเชื้อโรคได้ง่าย แปรงสีฟันที่ใช้ตามปกติทุกวัน ไม่จำเป็นต้องใส่หัวแปรงไว้ในกล่องเก็บหัวแปรง เพราะจะทำให้แห้งยาก ที่สำคัญต้องคอยดูแลเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงเริ่มบาน หรือทุก 3 เดือน เพราะขนแปรงที่บานจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง และอาจเป็นอันตรายต่อเหงือกในขณะที่แปรงฟันได้

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

Shares:
QR Code :
QR Code