แนะวิธีแก้ นร.ตีกัน สร้างจิตสำนึกเด็ก วอนครอบครัวช่วย

 แนะวิธีแก้ นร.ตีกัน สร้างจิตสำนึกเด็ก วอนครอบครัวช่วย

เร่งแก้ปัญหานักเรียนตีกัน หมอเดวแนะรัฐสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันในเยาวชน เสริมทักษะชีวิต ปลุกแนวคิดเชิงบวก ด้าน พญ.วิมลรัตน์เผย ต้องวิเคราะห์ปัญหาให้ตรงจุด ชี้ค่านิยมเรื่องความรุนแรง ศักดิ์ศรี อำนาจนิยม เป็นสาเหตุหลัก

สุริยเดว ทรีปาตี นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ในฐานะผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่นักเรียนจากสถาบันแห่งหนึ่ง ยกพวกทำร้ายร่างกายกันบนรถเมล์สาย 45 โดยมีการขว้างปาก้อนหิน ไม้ และพกอาวุธปืนหวังทำร้ายคู่อริ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 12 คน อยากให้รัฐบาลสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันในเยาวชน เพราะจากผลการสำรวจเรื่องต้นทุนชีวิตแนวคิดเชิงบวกของเยาวชนอายุ 12 – 25 ปี ในเดือนตุลาคม 2553 – มกราคม 2554 ใน 70 ชุมชนทั่วประเทศ พบว่าสิ่งที่มีปัญหาคือจิตสำนึก ไม่ใช่ทักษะชีวิตเท่านั้น คือกลุ่มวัยรุ่นชักชวนนัดแนะผ่านระบบสื่อสารออนไลน์ ดังนั้น ต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าเกิดจากตัวของเด็กเอง หรือเกิดจากครอบครัว เพราะหากเกิดครอบครัวแต่เรามาซ่อมที่ตัวเด็ก ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ ด้าน พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า จากการวิจัยปัจจัยและกลไกการเกิดพฤติกรรมรุนแรง โดยสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ พบว่าเกิดจากความคิดทัศนคติ ค่านิยมเรื่องความรุนแรง ศักดิ์ศรี วัฒนธรรมและอำนาจนิยมเป็นสาเหตุหลักกว่า 60 – 80% ส่วนเรื่องการดื่มสุราสารเสพติด เสี่ยงเป็นผู้กระทำ 9 – 20 เท่า ติดเกม 3.5 เท่า สื่อเป็นตัวกระตุ้นหรือทำให้เลียนแบบเสี่ยง 2.3 เท่า ความรุนแรงของผู้ใหญ่ในสังคมเสี่ยง 1.7 เท่า และครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงเข้มงวด ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง 1.3 เท่า

ซึ่งเด็กอาจต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายมาช่วยแก้ ซึ่งจะเป็นหนทางหนึ่งในการฝึกความอดทนและระเบียบวินัยของเด็ก ส่วนเด็กที่มีความเสี่ยงควรมีกาส่งเสริมป้องกัน โดยให้เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมที่เสริมสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเองส่วนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและเข้าใจธรรมชาติของเด็ก เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมการพัฒนาอีคิว โดยเฉพาะด้านการควบคุมอารมณ์ การเสริมทักษะชีวิตมากขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 

Shares:
QR Code :
QR Code